แม้จะขึ้นราคาไปแล้วก็ไม่ช่วย เมื่อ KFC ในญี่ปุ่นยังต้องเผชิญความท้าทายเรื่องต้นทุนวัตถุดิบที่ยังพุ่งสูง ทำให้กำไรสุทธิในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนอาจลดลงถึง 19% และจากนี้จะเดินหน้าจัดโปรโมชันส่งเสริมการขาย หวังดึงลูกค้าเข้าร้านต่อเนื่อง
Nikkei Asia รายงานว่า KFC Holdings Japan เชนร้านไก่ทอด ได้รายงานถึงผลประกอบการในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน มียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 6% โดยแบ่งเป็นสัดส่วนของร้านแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น 11.3%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- KFC ไม่ได้ยืนหนึ่งเฉพาะไก่ทอด ล่าสุดนำ ‘แซนด์วิชไก่ทอด’ เมนูที่เคยโด่งดังกลับมาทำตลาดในอเมริกาอีกครั้ง ส่วนไทยคงต้องรอไปก่อน!
- เปิดกลยุทธ์ ‘KFC’ เจ้าตลาดไก่ทอด หลังทำยอดขายโตสูงสุดในรอบ 4 ปี ลั่นปีหน้ามุ่งขยายสาขา-เสริมดิจิทัลบริการลูกค้า
- CRG ทุ่มขยายร้าน KFC อีก 30 แห่ง รองรับธุรกิจฟื้นตัว แย้มปี 66 เตรียมจำหน่ายแอลกอฮอล์ในสาขาทัวริสต์
ทั้งนี้ ยังคาดการณ์กำไรก่อนหักภาษีจะอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านเยน (6.64 ล้านดอลลาร์) ถือว่าเพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับกำไรของปีที่ผ่านมา แต่ถ้าคิดเป็นกำไรสุทธิอาจลดลง 19% หรืออยู่ที่ 2 พันล้านเยน ซึ่งสะท้อนถึงต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายแซงหน้าการเติบโตของยอดขาย แม้เดือนมีนาคมที่ผ่านมาจะปรับขึ้นราคาไปแล้ว 90% ก็ตาม
ถึงกระนั้นที่ผ่านมา KFC ในญี่ปุ่นได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ ทั้งในแง่ของการจัดชุดเมนู ควบคู่กับโปรโมชันที่หลากหลาย โดยเฉพาะการจับคู่เบอร์เกอร์ไก่และแซนด์วิชในราคาที่เข้าถึงง่าย ถือว่ากระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี จนทำให้ยอดการใช้จ่ายต่อบิลเพิ่มขึ้น 9.9% และจำนวนการเข้าร้านสูงขึ้น 1.3%
ที่สำคัญบริษัทมีการบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายภายใน พร้อมกับการใช้ระบบ Self-checkout เข้ามาช่วยจัดการต้นทุนแรงงานที่พุ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้การจัดซื้อมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยชดเชยต้นทุนของวัตถุดิบในบางรายการได้เป็นอย่างดี
อ้างอิง: