วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ ได้ประกาศลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อย่างเป็นทางการ พร้อมกับ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ร่วมให้การสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ที่ห้องประชุมเมืองไทยประกันภัย ชั้น 14 อาคารเมืองไทยภัทร คอมเพล็กซ์ ทาวเวอร์ เอ
โดยภายในงานแถลงข่าวได้มีการเปิดเผยรายละเอียดสำคัญ 2 ประเด็นใหญ่ๆ คือ เรื่องการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ หลังจากที่ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คนปัจจุบันกำลังจะหมดวาระในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2024 และการเตรียมทีมชาติไทยสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 ทีมชาติไทยพบกับจีนที่ประเทศไทย
โดยประเด็นสำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในงานแถลงข่าวช่วงเช้าที่ผ่านมา สรุปได้ดังนี้
1. มาดามแป้งประกาศยืนยันลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อย่างเป็นทางการ
วันนี้ถือเป็นการประกาศตัวอย่างเป็นทางการของมาดามแป้งในการลงชิงตำแหน่งประมุขลูกหนังของประเทศไทยในต้นปีหน้า โดยมีนัยสำคัญที่ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประกาศให้การสนับสนุน
2. นี่ไม่ใช่การยึดอำนาจจากนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ชุดปัจจุบัน
ภายในงานแถลงข่าวมีผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังผู้แถลงข่าวทั้งสามในวันนี้ว่า “นี่เป็นการประกาศยึดอำนาจจากนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ชุดปัจจุบันหรือไม่” ซึ่งทางเนวินตอบว่า
“ไม่ใช่การยึดอำนาจ แต่ทุกอย่างเป็นเพียงการทำเพื่อทีมชาติไทย โดยสามคนหัวเรือใหญ่มาหาทางออกร่วมกันเพื่อทีมชาติไทย โดยเฉพาะการเตรียมทีมไปแข่งฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้”
3. พล.ต.อ. สมยศ ทราบถึงการตัดสินใจลงชิงตำแหน่งของมาดามแป้งและพร้อมสนับสนุน
ภายในงานแถลงข่าว ก่อนจะเปิดเผยถึงการตัดสินใจลงชิงตำแหน่ง มาดามแป้งได้เปิดเผยว่า
“เมื่อ 2-3 วันก่อน ท่านนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้เชิญแป้งเข้าไปพูดคุย และปรารภว่าท่านอยากวางมือ เนื่องจากอายุมากแล้ว และอยากสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้มาช่วยกันบริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ท่านได้เล็งเห็นความรักในฟุตบอลไทยของแป้ง จึงได้ขอร้องและสนับสนุนให้ลงสมัครแข่งขันคัดเลือกเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คนต่อไป”
4. เนวินเปิดเผยว่า จะให้ มาซาทาดะ อิชิอิ เข้ารับตำแหน่งประธานฝ่ายเทคนิคฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่
ภายในงานแถลงข่าว เนวินได้เปิดเผยว่าจะให้ มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้ามาทำหน้าที่เป็นประธานฝ่ายเทคนิคของฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ เพื่อภารกิจสำหรับฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ซึ่งจะเริ่มต้นแข่งขันแมตช์แรกกับจีนในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 โดยทางบุรีรัมย์จะเป็นฝ่ายออกค่าจ้างให้กับอิชิอิต่อไป และมาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยจะยังคงเป็นเฮดโค้ชต่อไปตามสัญญากับทีมชาติไทย
5. ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา มีสัญญายืมตัวกับ โอเอช ลูเวิน ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี จะไม่กลับมาช่วยทีมในศึกคิงส์คัพ แต่จะมาในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
ศุภณัฏฐ์ที่มีสัญญายืมตัวกับโอเอช ลูเวิน เป็นเวลา 1 ปี จะไม่สามารถกลับมาช่วยทีมชาติไทยในศึกคิงส์คัพที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-12 กันยายน โดยมี 4 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน ประกอบไปด้วย อิรัก อันดับ 70, อินเดีย อันดับ 100, เลบานอน อันดับ 102 และทีมชาติไทย อันดับ 113 แต่ยืนยันว่าจะกลับมาช่วยทีมในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก
6. บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะให้การสนับสนุนการเตรียมทีมชาติไทยชุดใหญ่
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนเรื่องระบบการเตรียมทีมของฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ ทั้งฟิตเนสศูนย์วิทยาศาสตร์กีฬา และการฝึกซ้อม เพื่อการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก
7. มาดามแป้งพร้อมลาออกจากประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี หากได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
มาดามแป้งยืนยันว่าหากได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะลาออกจากตำแหน่งประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี แต่ยืนยันไม่ละทิ้งสโมสร และจะมองหาคนอื่นเข้ามารับตำแหน่งประธานแทน
สำหรับการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะเริ่มต้นขึ้นหลัง พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หมดวาระในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2024
ซึ่งการร่วมกันแถลงข่าวครั้งนี้ถือว่ามีนัยสำคัญสำหรับทิศทางการพัฒนาของวงการฟุตบอลไทย เนื่องจากวันนี้ถือเป็นการเปิดตัวกลุ่มคนที่มีโอกาสเข้ามาบริหารจัดการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในยุคต่อไป และได้เริ่มต้นด้วยความร่วมมือจัดสรรทรัพยากรมาใช้สำหรับฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกที่จะพบกับจีนในช่วงปลายปีนี้
โดยช่วงที่ผ่านมาฟุตบอลไทยพบกับวิกฤตต่างๆ มากมาย ทั้งผลงานของทีมชาติไทย ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันไทยที่ลดลงเป็นอย่างมาก และราชมังคลากีฬาสถาน สนามกีฬาหลักของฟุตบอลทีมชาติไทยที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องของความพร้อมสำหรับการแข่งขันระดับสากล แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก็ตาม รวมถึงศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติที่ยังไม่มีที่ดินสร้างอย่างเป็นทางการ
วันนี้อาจจะเป็นกิโลเมตรที่ศูนย์ของวงการฟุตบอลไทยยุคต่อไป เมื่อเราได้อีกหนึ่งแคนดิเดตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศตัวอย่างเป็นทางการ ร่วมกับรายชื่อก่อนหน้านี้ ทั้ง ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย และพาลินี (พอลลีน) งามพริ้ง อดีตแกนนำกลุ่มเชียร์ไทย ที่คาดว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งเช่นกัน
ซึ่งเรายังคงต้องติดตามต่อไปว่าแคนดิเดตแต่ละคนจะมีนโยบายอะไรบ้างที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน จะส่งเสริมวงการฟุตบอลไทยไปในทิศทางไหน และสโมสรสมาชิกจะตัดสินอนาคตของวงการฟุตบอลอย่างไรในเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ครั้งต่อไปในปี 2024
