รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับ เดนา แบช ผู้ประกาศข่าว CNN เมื่อวานนี้ (29 สิงหาคม) โดยถือเป็นการให้สัมภาษณ์สื่อครั้งแรกหลังจากได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และเป็นการแสดงวิสัยทัศน์และความพร้อมในการดำเนินนโยบายต่างๆ ก่อนจะถึงการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน
แฮร์ริส พร้อมด้วย ทิม วอลซ์ คู่หูชิงรองประธานาธิบดี ได้ร่วมให้สัมภาษณ์ในหลายประเด็น อาทิ กฎหมายความมั่นคงชายแดน ภาวะเงินเฟ้อ พลังงาน สภาพภูมิอากาศ นโยบายต่ออิสราเอล และท่าทีต่อคู่แข่งอย่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ขณะที่เธอยังใช้โอกาสนี้ปกป้องจุดยืนในนโยบายต่างๆ ของเธอ หลังจากเผชิญข้อกล่าวหาว่าเปลี่ยนจุดยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและปัญหาคนเข้าเมือง มาเป็นแนวสายกลางมากขึ้น
คุมเข้มความมั่นคงชายแดน
ในประเด็นความมั่นคงชายแดน แฮร์ริสกล่าวยืนยันว่าจะเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ลักลอบข้ามพรมแดนเข้าประเทศ พร้อมทั้งผลักดันกฎหมายควบคุมชายแดนฉบับใหม่
ขณะที่เธอกล่าวหาทรัมป์ว่าต้องรับผิดชอบต่อปัญหาความมั่นคงชายแดน หลังจากที่สนับสนุนให้สมาชิกสภาคองเกรสของรีพับลิกันคว่ำกฎหมายควบคุมชายแดนดังกล่าว ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนได้กว่า 1,500 คน
ไม่ยกเลิกส่งอาวุธอิสราเอล
ในส่วนนโยบายต่ออิสราเอลนั้น แฮร์ริสยืนยันว่าเธอจะไม่ยกเลิกการจัดส่งอาวุธแก่อิสราเอลและยังคงให้การสนับสนุนต่ออิสราเอลอย่างหนักแน่น แต่ย้ำความจำเป็นที่ต้องบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาและข้อตกลงเพื่อแลกเปลี่ยนตัวประกัน
จุดยืนที่เป็นกลางมากขึ้น
นอกจากนี้เธอยังแสดงจุดยืนที่เป็นกลางมากขึ้นต่อนโยบายขยายขุดเจาะน้ำมันจากชั้นหินดินดานด้วยเทคโนโลยี Fracking หรือ Hydraulic Fracturing ซึ่งใช้การอัดฉีดน้ำ ทราย และสารเคมี ด้วยกำลังอัดแรงสูงเข้าไปที่ชั้นหินดินดาน
โดยในระหว่างหาเสียงเลือกตั้งปี 2019 แฮร์ริสเคยแสดงจุดยืนคัดค้านการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ท่ามกลางความกังวลต่อผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่ท้ายที่สุด ในปี 2022 รัฐบาลไบเดนได้ผ่านกฎหมายขยายการใช้เทคโนโลยีขุดเจาะน้ำมันแบบ Fracking พร้อมทั้งส่งเสริมนโยบายพลังงานสะอาดควบคู่ไปด้วย
แฮร์ริสยืนยันในการให้สัมภาษณ์ว่าเธอไม่ได้เปลี่ยนจุดยืน แต่ก็จะไม่ยกเลิกอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันถือเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างงานให้ประชาชนในรัฐเพนซิลเวเนียได้เป็นจำนวนมาก โดยมองว่าสามารถสร้างเศรษฐกิจพลังงานสะอาดได้โดยไม่ต้องยกเลิกการขุดเจาะน้ำมันแบบ Fracking
ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าท่าทีของเธอต่อเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง เนื่องจากรัฐเพนซิลเวเนียเป็นหนึ่งในรัฐ Swing State ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญในการชี้ขาดผลเลือกตั้ง
เลี่ยงตอบโต้ทรัมป์
ทั้งนี้ แฮร์ริสยังเลี่ยงตอบคำถามเกี่ยวกับข้อกล่าวอ้างของทรัมป์เกี่ยวกับอัตลักษณ์ทางเชื้อชาติและเพศของเธอระหว่างร่วมการประชุมสมาคมนักข่าวผิวดำแห่งชาติในชิคาโก โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้แฮร์ริสแสดงตัวตนว่าเป็นคนเอเชียใต้ แต่บังเอิญกลายเป็นคนผิวดำเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง
ซึ่งแฮร์ริสส่ายหัว ก่อนจะกล่าวว่า “คำพูดของทรัมป์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของคู่มือเก่าๆ ที่น่าเบื่อหน่ายของเขา”
แนวคิดแต่งตั้งรีพับลิกันร่วมคณะรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ทั้งแฮร์ริสและวอลซ์ยังกล่าวถึงแนวคิดการแต่งตั้งสมาชิกพรรครีพับลิกันในคณะรัฐมนตรีหากชนะการเลือกตั้ง
โดยแฮร์ริสมองว่าการมีผู้คนหลากหลายมุมมองและประสบการณ์ถือเป็นสิ่งสำคัญเมื่อต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญบางอย่าง และเห็นว่าการมีสมาชิกพรรครีพับลิกันในคณะรัฐมนตรีนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวอเมริกัน
ภาพ: Elizabeth Frantz TPX IMAGES OF THE DAY / Reuters
อ้างอิง: