ชัยชนะเหนือนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 5-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (8 พฤษภาคม) ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษเป็นสมัยที่ 8 ของสโมสร และจะเป็นสมัยที่ 6 ในช่วง 10 ปีหลังสุดไปอีกขั้น
อย่างไรก็ดี เป้าหมายใหญ่ที่สุดที่แม้แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยอดผู้จัดการทีมชาวสเปนก็ยังทำไม่สำเร็จ คือการคว้าแชมป์ฟุตบอลรายการสโมสรยุโรปอย่างยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งหลังจากที่อกหักในรอบชิงชนะเลิศในฤดูกาลที่แล้ว ในฤดูกาลนี้ก็ยิ่งอกหักแรงกว่าเดิมเมื่อถูกเรอัล มาดริด พลิกโชคชะตากลับมาแซงเอาชนะได้ในรอบรองชนะเลิศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งๆ ที่ฟอร์มและความแข็งแกร่งของทีมแทบจะหาคู่ต่อกรได้ยากแล้ว
ข่าวร้ายสำหรับทีมอื่นคือในฤดูกาลหน้าแมนฯ ซิตี้จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอีก เมื่อพวกเขากำลังจะได้ตัวของ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการ
โดยตามรายงานข่าวล่าสุดจาก The Athletic ที่อ้างอิงแหล่งข่าวจากประเทศเยอรมนีเปิดเผยว่า ขณะนี้การเจรจาการย้ายทีมของกองหน้าทีมชาตินอร์เวย์จากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มายังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ ‘เสร็จสิ้น’ เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าการประกาศข่าวอย่างเป็นทางการน่าจะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้
ก่อนหน้านี้ The Times จากอังกฤษได้เคยรายงานเกี่ยวกับการย้ายทีมของดาวยิงพระกาฬวัย 21 ปีที่เป็นที่หมายปองของสโมสรใหญ่ทั่วโลก ว่าแมนฯ ซิตี้เป็นทีมที่เอาชนะใจของฮาลันด์ได้สำเร็จ ซึ่งแม้ว่าเจ้าตัวมีความฝันที่จะย้ายไปเล่นให้กับเรอัล มาดริด แต่ทีมแชมป์ลาลีกาต้องการได้ตัวของ คีลิยัน เอ็มบัปเป ก่อนทำให้โอกาสที่จะย้ายไป ซานติอาโก เบร์นาเบว มีน้อย
การย้ายมาแมนฯ ซิตี้ในระหว่างนี้เพื่อร่วมงานกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และเพื่อนร่วมทีมระดับโลกที่รายล้อมเต็มไปหมดอย่างน้อย 3-4 ปีจึงเป็นทางเลือกที่ไม่ได้แย่อะไร
ฮาลันด์จะได้รับค่าตอบแทนสูงถึงสัปดาห์ละ 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของนักเตะระดับโลกและเป็นสิ่งที่ มิโน ไรโอลา อดีตเอเจนต์ผู้ล่วงลับพยายามผลักดันกองหน้าที่ถูกประคบประหงมมาอย่างดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา คาดหวังจะเห็นนักเตะผู้นี้ก้าวไปยืนอยู่แถวหน้าของโลกลูกหนังอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ดอร์ทมุนด์ต้นสังกัดไม่คิดที่จะขัดขวางการย้ายทีมแต่อย่างใด โดยที่ทั้งสองสโมสรได้มีการพูดคุยกันแล้วและสโมสรจากเยอรมันไม่ขัดข้องที่แมนฯ ซิตี้จะใช้เงื่อนไขในการจ่ายค่าปลดสัญญามูลค่า 63 ล้านปอนด์สำหรับการปลดปล่อยกองหน้าที่ทำ 85 ประตูจากการลงสนาม 88 นัด (จนถึงปัจจุบัน) ในถิ่นเวสต์ฟาเลน
การย้ายทีมครั้งนี้จะมีความพิเศษเพิ่มขึ้นเมื่อฮาลันด์ที่เกิดในเมืองลีดส์ จะได้เดินตามรอยของ อัล์ฟ อิงเก ฮาลันด์ บิดาผู้เคยเป็นอดีตกองกลางของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่จะเป็นคำตอบในแดนหน้าที่กวาร์ดิโอลามองหาตลอด 2 ปีที่ผ่านมากับนักเตะศูนย์หน้าที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมทุกอย่างที่จะมาแทนที่ของ เซร์คิโอ อเกวโร ที่อำลาทีมไปในฤดูกาลที่แล้วเพื่อไปอยู่กับบาร์เซโลนาก่อนที่จะต้องอำลาวงการอย่างน่าเศร้าเมื่อเป็นโรคหัวใจ
ในช่วงปิดฤดูกาลที่แล้วแมนฯ ซิตี้พยายามที่จะคว้าตัว แฮร์รี เคน มาร่วมทีม แต่ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ประกาศกร้าวที่จะไม่ยอมปล่อยตัวไปอย่างเด็ดขาด แต่กระนั้นทีมของกวาร์ดิโอลาที่เล่นโดยไม่มีศูนย์หน้าอาชีพเลยก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
อีกหนึ่งซูเปอร์สตาร์ที่เป็นข่าวฮือฮากับแมนฯ ซิตี้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือรายของ พอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสที่กำลังจะหมดสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชื่อว่าจะไม่มีการต่อสัญญาฉบับใหม่อีกอย่างแน่นอน
นอกจากผู้เล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าแล้วแมนฯ ซิตี้ยังต้องการผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางด้วย เนื่องจาก แฟร์นันดินโญ กองกลางจอมเก๋าวัย 37 ปีชาวบราซิลได้ประกาศอำลาทีมหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ และป็อกบาก็เป็นตัวเลือกที่มีความเพียบพร้อมในทุกด้าน ที่สำคัญคือสามารถย้ายทีมได้อย่างอิสระ
ข่าวดังกล่าวทำให้เกิดการวิพากษ์ขึ้นอย่างมาก เนื่องจากจะเป็นอีกครั้งที่เกิดการย้ายทีมข้ามฟากระหว่าง 2 สโมสรคู่ปรับร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ ในรูปแบบคล้ายกับที่ คาร์ลอส เตเวซ ย้ายจากโอลด์แทรฟฟอร์ดไปอยู่เอติฮัด สเตเดียม เมื่อปี 2009
ครั้งนั้นแมนฯ ซิตี้มีการทำป้ายขนาดยักษ์เป็นรูปของเตเวซบนผืนผ้าสีฟ้าพร้อมข้อความว่า ‘Welcome to Manchester’
อย่างไรก็ดี The Athletic รายงานข่าวกองกลางวัย 29 ปีไม่มีความคิดที่จะย้ายข้ามฟากแต่อย่างใด แม้ว่าจะได้รับข้อเสนออย่างงามจากแมนฯ ซิตี้ก็ตาม
ความต้องการของนักเตะที่เป็นหนึ่งในลูกค้าคนสำคัญของ มิโน ไรโอลา คือการย้ายไปยัง ‘ที่อื่น’ ซึ่งปัจจุบันมียูเวนตุส ทีมเก่า, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และเรอัล มาดริดที่มีโอกาสจะได้ตัวไปร่วมทีม
ส่วนแมนฯ ซิตี้อาจจะหันไปหา แฟรงกี เดอ ยอง กองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์จากบาร์เซโลนาเป็นการทดแทนสำหรับการเสริมทัพในช่วงปิดฤดูกาลนี้
อ้างอิง:
