การชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘เยาวรุ่นทะลุแก๊ส’ รวมถึงกลุ่ม ‘ทะลุแก๊ซ’ และกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ’ ซึ่งได้จัดการชุมนุมที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ มีการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) และเกิดเหตุการณ์ตามมาในหลายครั้งตามที่ปรากฏต่อหน้าสื่อ
ขณะที่ล่าสุดการชุมนุมเมื่อวานนี้ (12 กันยายน) ในช่วงเวลาหลังเคอร์ฟิว ก่อนเที่ยงคืน มีรายงานผ่านสื่อหลายสำนักว่ามีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นรถควบคุมผู้ต้องขังขับฝ่ากลุ่มผู้ชุมนุมและพุ่งชนผู้ชุมนุมรายหนึ่งจนล้มและได้รับบาดเจ็บ โดยปรากฏคลิปวิดีโอช่วงเกิดเหตุที่แพร่หลายในสื่อและโซเชียลมีเดียจำนวนมากนั้น
THE STANDARD สรุปข้อเท็จจริงและความเคลื่อนไหวของเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น
- เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘เยาวรุ่นทะลุแก๊ส’ โพสต์นัดหมายชุมนุมที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 12 กันยายน โดยเมื่อถึงเวลานัดหมาย โครงการอินเทอร์เน็ตกฎหมายเพื่อประชาชน หรือ iLaw รายงานว่า มีประชาชนเข้าร่วมประมาณ 150-200 คน ขณะที่กลุ่ม ‘ทะลุแก๊ซ’ และกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ’ ได้มีการประชาสัมพันธ์นัดหมายผ่านโซเชียลมีเดียเช่นกัน
- iLaw ระบุว่า ตั้งแต่เวลา 18.03-21.04 น. มีเหตุการณ์ปาระเบิดหลายครั้ง มีเพลิงไหม้เกิดขึ้นในหลายจุด โดยเฉพาะจุดที่มีการไหม้ใกล้ทางด่วนดินแดงหรือซุ้มเฉลิมพระเกียรติ กระทั่งในเวลาต่อมารถฉีดน้ำแรงดันสูง (จีโน่) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้เข้ามาดับเพลิงจนหมด
- เวลา 21.13 น. มีการเผชิญหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมบริเวณซอยมิตรไมตรี 2 มีการใช้ทั้งแก๊สน้ำตาและกระสุนยางอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มผุ้ชุมนุมใช้พลุในการตอบโต้กับเจ้าหน้าที่
- เวลา 23.55 น. The Reporters รายงานว่าผู้สื่อข่าวได้บันทึกภาพเหตุการณ์ มีรถยนต์ควบคุมผู้ต้องหา 1 คันชนผู้ชุมนุมบริเวณแยกดินแดง ฝั่งมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย โดยอาการเบื้องต้น ณ เวลาดังกล่าว ผู้บาดเจ็บยังมีสติ ได้รับบาดเจ็บที่คางและลำตัว อยู่ระหว่างการปฐมพยาบาลและนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี
- ปรากฏการณ์ในโลกออนไลน์หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในสื่อต่างๆ ทำให้แฮชแท็ก #ม็อบ12กันยา พุ่งสูงถึง 1.18 ล้านทวีต รวมถึงมีการแชร์คลิปดังกล่าวจากแฟนเพจ ‘เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH’ กว่า 1.9 แสนครั้ง และยอดชมกว่า 2.1 ล้านวิว ณ เวลา 17.00 น. ของวันที่ 13 กันยายน 2564
- ขณะที่วันนี้ (13 กันยายน) พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า บุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือ ส.ต.อ. นรเศรษฐ ผู้บังคับหมู่ ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล (สน.) พลับพลาไชย 1 ที่ได้รับคำสั่งให้นำรถผู้ต้องขังไปจอดรถคำสั่งอยู่ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หลังจากเวลา 23.00 น. เศษ ได้รับแจ้งว่าเหตุการณ์เป็นปกติแล้วจึงขับรถกลับหน่วยงานผ่านมายังบริเวณนั้น
- ปรากฏว่าเจอกลุ่มผู้ชุมนุม 6-7 คนเข้ามารุมทุบตีรถและปาวัตถุ มีเสียงดังคล้ายระเบิดเพื่อพยายามขัดขวาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวพยายามขับรถหลบหนีและมีการเฉี่ยวชนแต่ไม่ได้รับอันตรายรุนแรง โดยได้ขับรถมาจอดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เพราะรถได้รับความเสียหายขับต่อไปไม่ได้ พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดทราบ ซึ่งมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพร้อมแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ดินแดง และในวันนี้จะได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กรณีถูกทำร้ายและทำลายทรัพย์สิน ขณะเดียวกันได้มีการตรวจสอบไปยังสถานพยาบาลในพื้นที่โดยรอบก็ไม่พบว่ามีผู้ใดเข้ารับการรักษาเนื่องจากบาดเจ็บถูกรถเฉี่ยวชน
- พล.ต.ท. ภัคพงศ์ ยืนยันว่า ไม่ใช่คนขับมองไม่เห็น แต่ขณะนั้นถูกรุมทำร้ายทุบตีและเข้ามาขัดขวางเส้นทาง ตำรวจพยายามเบรกและหยุดดู พร้อมทั้งรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ทั้งนี้ไม่ใช่การชนแล้วหนี แต่เจ้าหน้าที่พยายามตรวจสอบสถานพยาบาลใกล้เคียงก็ไม่พบว่ามีใครเข้ารับการรักษา ซึ่งบุคคลใดที่ได้รับบาดเจ็บจากการดำเนินการของตำรวจก็สามารถเข้าร้องทุกข์ได้เช่นกัน โดยยืนยันว่าเป็นสิทธิตามกฎหมาย
- นิโรธ สุนทรเลขา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดนครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ ของสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ยังไม่เห็นคลิปเหตุการณ์ แต่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กมธ. ตรวจสอบภาพคลิป พร้อมทำหนังสือถึง ผบช.น. ให้เข้ามาชี้แจงต่อกรรมาธิการในวันที่ 16 กันยายนนี้
- ล่าสุด นิโรธ กังวลว่าจะล่าช้าไป จึงให้ตัวแทน กมธ. ได้แก่ สัญญา นิลสุพรรณ, จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร และ ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ไปพบ ผบช.น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในวันที่ 14 กันยายนนี้่ เวลา 13.00 น. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง
- ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมจากประชาชน กล่าวว่า การปรากฏภาพรถตำรวจขับชนผู้ชุมนุมจนกลิ้งไปตามถนนและขับหนีไปอย่างรวดเร็วเหมือนพวกชนแล้วหนี นี่ไม่ใช่พฤติกรรมที่ควรทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแน่นอน
- ณัฐชา กล่าวอีกว่า การทำให้ประชาชนได้รับอันตราย บาดเจ็บ ที่อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ เป็นสิ่งที่ต้องรีบรับผิดชอบและติดตามทวงคืนความยุติธรรมให้เขาอย่างเต็มที่ ไม่ใช่รอให้ต้องมาแจ้งความเดินเรื่องกันเอาเอง เรื่องนี้ หากตำรวจไม่ทำหน้าที่อีกก็จะเป็นอีกเรื่องที่สภาจะสอบสวนเพื่อทำความจริงให้ปรากฏต่อไปอย่างแน่นอน
- ล่าสุดมีรายงานว่าผู้บาดเจ็บได้รับอนุญาตจากแพทย์ให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว โดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจะได้มีการติดตามข้อมูลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุต่อไป
ภาพ: The Reporters