1.วานนี้ (7 มกราคม) นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่าข้อกำหนดฉบับล่าสุด ต้องมีการโหลดแอปพลิเคชัน ‘หมอชนะ’ ไว้ในโทรศัพท์มือถือของประชาชน และหากพบว่าในเวลาต่อมามีการตรวจพบว่าบุคคลนั้นมีการติดเชื้อ แต่ไม่มีแอปฯ ดังกล่าว อาจมีความผิดตามโทษที่กำหนดไว้
2. ในเวลาต่อมา อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความระบุว่า นายกรัฐมนตรีรับทราบ รู้ปัญหาคนไม่มีสมาร์ทโฟน ให้เปลี่ยนเป็นเอกสารแทน ยืนยันไม่โหลดแอปฯ หมอชนะ ก็ไม่ผิด
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในข้อกำหนดของ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ฉบับที่ 16 สาระสำคัญในข้อ 6 คือให้ประชาชนงดและชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด เว้นแต่เหตุจำเป็น ต้องแสดงหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ ดังนั้นสิ่งที่จะเป็นหลักฐานจึงมีความจำเป็นออกข้อกำหนดฉบับที่ 17 ออกมา ที่กล่าวถึงการยกระดับพื้นที่ พร้อมมีการใช้แอปฯ หมอชนะ ใช้คัดกรองผู้เดินทางและแสดงเหตุผลการเดินทาง
จึงอยากสื่อสารเพิ่มเติมว่า คนที่ป่วยและปกปิดข้อมูล พร้อมทั้งไม่มีแอปฯ หมอชนะ เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนโรค คนเหล่านี้ต้องได้รับการกำหนดโทษ แต่หากมีแอปฯ หมอชนะก็สามารถเปิดเข้าไปดูไทม์ไลน์ได้ทันที
นพ.ทวีศิลป์ระบุว่าเพราะห่วง จึงอยากให้ใช้แอปฯ หมอชนะ หากไม่โหลดก็ไม่มีความผิด แต่การใช้แอปฯ ดังกล่าวจะช่วยลดภาระบุคลากรสาธารณสุขในการสอบสวนโรค และทำให้ตัวผู้ป่วยไม่เสียเวลาและยุ่งยากในการจดจำไทม์ไลน์
นพ.ทวีศิลป์ยืนยันว่า กรณีที่ผู้ป่วยจะมีความผิดคือ ต้องปกปิดข้อมูลและพบว่าไม่มีแอปฯ หมอชนะ หรือจงใจไม่โหลด และต้องประกอบด้วยหลายปัจจัย ไม่ใช่เพียงแต่ว่าไม่มีแอปฯ หมอชนะแล้วจะผิดทันที
ศบค. เผยยอดจำนวนผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหมอชนะจนถึงวันที่ 7 มกราคม รวม 3.69 ล้านดาวน์โหลด
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์