×

จับตา ‘Emerging Markets’ ดาวรุ่งพุ่งแรง จ่อรับเม็ดเงินไหลเข้าอีก 5 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าหนุน

22.12.2025
  • LOADING...
จับตา ‘Emerging Markets’ ดาวรุ่งพุ่งแรง จ่อรับเม็ดเงินไหลเข้าอีก 5 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าหนุน

ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) กำลังถูกจับตามองอย่างมากในฐานะหนึ่งในธีมการลงทุนเด่นรับปี 2026 หลังจากปี 2025 กลายเป็นปีที่เงินทุนไหลเข้าแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 ผู้จัดการกองทุนจำนวนมากเชื่อว่ากระแสเงินลงทุนรอบใหม่ในตลาดเกิดใหม่ไม่ได้เป็นเพียงการฟื้นตัวระยะสั้น แต่กำลังก้าวเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นหลายปี

 

ปีนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 ที่หุ้นตลาดเกิดใหม่ให้ผลตอบแทนดีกว่าหุ้นสหรัฐฯ ส่วนส่วนต่างอัตราผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรตลาดเกิดใหม่กับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แคบลงต่ำสุดในรอบ 11 ปี ขณะที่กลยุทธ์ carry trade ซึ่งอาศัยการกู้เงินต้นทุนต่ำไปลงทุนในสินทรัพย์ผลตอบแทนสูง ทำกำไรได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009

 

บรรยากาศเชิงบวกสะท้อนชัดในงานประชุมนักลงทุนของ Bank of America ที่ลอนดอน ซึ่งมีนักลงทุนเข้าร่วมกว่า 300 รายโดยแทบไม่พบมุมมองเชิงลบต่อสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่ หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ของธนาคารถึงกับสรุปว่า “นักลงทุนสายหมีในตลาดเกิดใหม่แทบสูญพันธุ์ไปแล้ว”

 

เบื้องหลังความเปลี่ยนแปลงนี้คือการปรับทิศทางเงินลงทุนระดับโลก ผู้จัดการพอร์ตเริ่มต้องการกระจายความเสี่ยงออกจากสหรัฐฯ มากขึ้น ขณะเดียวกันหลายประเทศกำลังพัฒนามีความคืบหน้าในการลดภาระหนี้และควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจของสินทรัพย์ในกลุ่มนี้ ต่างจากช่วงก่อนหน้าที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงตลาดเกิดใหม่จากผลตอบแทนที่ซบเซาและความกังวลเรื่องสงครามการค้า

 

นักลงทุนสถาบันมองปี 2025 เป็น ‘จุดเปลี่ยน’ สำคัญ จากเดิมที่คำถามคือ ตลาดเกิดใหม่ยังน่าลงทุนหรือไม่ กลายเป็นว่าคำถามนั้นแทบไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกแล้ว กระแสเชิงบวกยังได้รับแรงหนุนจากมุมมองของสถาบันการเงินรายใหญ่อย่าง JPMorgan Chase และ Morgan Stanley ที่ประเมินว่าตลาดเกิดใหม่จะได้ประโยชน์จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ขยายตัวในวงกว้าง โดย JPMorgan คาดว่าเงินจะไหลเข้าสู่กองทุนตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่สูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้า

 

แม้ราคาสินทรัพย์จะปรับขึ้นมามาก แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการถือครองตลาดเกิดใหม่ในพอร์ตทั่วโลกยังต่ำกว่าศักยภาพ เงินไหลเข้าสู่ ETF หุ้นตลาดเกิดใหม่ในสหรัฐฯ ราว 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2025 และกองทุนตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่รับเงินกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ทว่ายังเป็นเพียงการชดเชยเงินไหลออกสะสมกว่า 1.42 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีก่อนหน้า นั่นหมายความว่าสินทรัพย์กลุ่มนี้ยังมีสัดส่วนต่ำในพอร์ตการลงทุนโลก

 

ขณะเดียวกัน น้ำหนักของตลาดเกิดใหม่ในดัชนีหุ้นและพันธบัตรโลกก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนบทบาทที่กลับมามีความสำคัญมากขึ้น นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่านักลงทุนยังมีพื้นที่ในการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดเกิดใหม่ได้อีกมาก

 

อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงยังไม่หายไป โดยเฉพาะจีนที่ยังเผชิญภาวะเงินฝืด ซึ่งอาจส่งออกกำลังการผลิตส่วนเกินไปยังกำลังพัฒนาอื่นๆ และกดดันอุตสาหกรรมท้องถิ่น อีกปัจจัยสำคัญคือทิศทางค่าเงินดอลลาร์ การอ่อนค่าลงราว 8% ในปีนี้ช่วยหนุนสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่อย่างมาก แต่หากธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาด ดอลลาร์อาจกลับมาแข็งค่าและสร้างแรงกดดันได้

 

ถึงกระนั้น หลายสถาบันยังมองบวก โดยเชื่อว่าอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงของพันธบัตรตลาดเกิดใหม่ยังสูงพอจะดึงดูดเงินลงทุน แม้ในกรณีที่ดอลลาร์แข็งค่า ล่าสุดเพียงสัปดาห์เดียวก่อนกลางเดือนธันวาคม เงินกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่กองทุนตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

 

นักวิเคราะห์มองว่า หากตลาดเกิดใหม่สามารถยืนหยัดได้ท่ามกลางความผันผวนของดอลลาร์และนโยบายการเงินสหรัฐฯ นักลงทุนที่ยังลังเลอาจเริ่มเชื่อว่ากำลังเกิดการปรับโครงสร้างการลงทุนครั้งใหญ่จริง และเมื่อถึงวันที่ทุกคนมั่นใจเต็มที่ โอกาสอาจไม่เปิดกว้างเหมือนในวันนี้อีกต่อไป

 

ภาพ: alexsl/Getty Images

 

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising