‘เคซีจี คอร์ปอเรชั่น’ เจ้าของคุกกี้อิมพีเรียล เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เสนอขาย IPO ไม่เกิน 170 ล้านหุ้น หวังระดมทุนเพิ่มศักยภาพคลังสินค้า พร้อมขยายกำลังการผลิต ส่วนที่เหลือจะนำไปชำระหนี้สถาบันการเงิน
ตง ธีระนุสรณ์กิจ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เคซีจี คอร์ปอเรชั่น หรือ KCG กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเนย-ชีส ภายใต้แบรนด์ อิมพีเรียล และอลาวรี่ มาเป็นระยะเวลา 64 ปี ภายใต้วิสัยทัศน์ การมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการจับมือกับพันธมิตร จัดหาวัตถุดิบจากทั่วโลกเพื่อสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทั้งไทยและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเป็นผู้นำเข้าสินค้าอาหารสำเร็จรูปและเนยแข็งระดับโลก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เจาะเทรนด์หุ้น IPO ปี 2565 จับตา Spin-off-หุ้นใหญ่-หุ้นกระแส New Economy
- หุ้น IPO ที่เตรียมตัวเข้าตลาดปีนี้อยู่ในหมวดธุรกิจอะไรบ้าง
- 12 หุ้นปันผล 2565 ขึ้น XD (9-12 พ.ค. 2565) อัตราปันผลสูงเกิน 5% ขึ้นไป
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ มีทีมวิจัยและพัฒนาสินค้าให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่องซึ่งมีกำลังการผลิตครบวงจร พร้อมกับระบบโลจิสติกส์แบบควบคุมอุณหภูมิที่สามารถกระจายสินค้าครอบคลุมทุกช่องทาง
โฟกัสไปที่ช่องทางการขายให้ลูกค้ากลุ่ม Business to Customer หรือ B2C ผ่านร้านค้าปลีกสมัยใหม่และแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงช่องทางการขายให้กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ Business to Business หรือ B2B ให้กับผู้ผลิตอาหาร ผู้ประกอบการโรงแรมและภัตตาคาร รวมถึงการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยหากอ้างอิงตามข้อมูลของ Euromonitor บริษัทฯ เป็นผู้นำสำหรับผลิตภัณฑ์เนยและชีส โดยมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1
ด้าน พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน KCG กล่าวต่อว่า บริษัทได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565
โดยปัจจุบัน บมจ.เคซีจี คอร์ปอเรชั่น มีทุนจดทะเบียน 560 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 560 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.0 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 390 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 170 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 30.4 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการระดมทุน เพิ่มศักยภาพศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าตลอดจนการขยายกำลังการผลิต และส่วนที่เหลือจะนำไปชำระหนี้สถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน KCG มีผลิตภัณฑ์หลักประกอบด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ภายใต้แบรนด์ Imperial, Allowrie และ Dairygold ตามด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบอาหารและเบเกอรี และผลิตภัณฑ์บิสกิต ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์คุกกี้ ผลิตภัณฑ์แครกเกอร์ และผลิตภัณฑ์เวเฟอร์ ภายใต้แบรนด์ Imperial Rosy และ Violet