ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจพิจารณาปรับแผนลดวงเงิน QE ในอัตราที่เร่งขึ้นกว่าเดิม และมีความเป็นไปได้ที่ Fed อาจส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่เคยส่งสัญญาณไว้ก่อนหน้า จากแรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ที่ยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อทั่วไปวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 40 ปีที่ 6.8%YoY
ขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ก็ยังมีแนวโน้มจะคงอยู่ในระดับสูงต่อไปในระยะข้างหน้า จากปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานและปัญหาขาดแคลนแรงงานในสหรัฐฯ ที่ไม่น่าจะคลี่คลายลงในระยะเวลาอันใกล้ ในขณะที่ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ก็มีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
จากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงคาดว่า Fed จะเผชิญแรงกดดันให้ถอนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงินเป็นแบบตึงตัวเร็วกว่าขึ้นกว่าเดิม โดย Fed อาจพิจารณาปรับแผนลดวงเงิน QE ในอัตราที่เร่งขึ้น เพื่อให้วงเงิน QE ทั้งหมดสิ้นสุดลงเร็วกว่าเดือนมิถุนายน 2023 ตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้ก่อนหน้า อีกทั้ง Fed อาจเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่เคยส่งสัญญาณไว้ก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี ในระยะข้างหน้า Fed คงจะต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่อาจมีเพิ่มเติมจากการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน รวมถึงอุปสงค์ในประเทศที่มีแนวโน้มที่จะชะลอลง ประกอบกับความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่กลับมาตึงเครียดเพิ่มขึ้นอีกครั้งจากประเด็นไต้หวัน
ดังนั้น Fed คงต้องประเมินความเสี่ยงด้านต่างๆ ในการพิจารณาจังหวะที่เหมาะสมในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า โดยหาก Fed ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่ควร นอกจากจะสร้างความผันผวนมากขึ้นในตลาดเงินตลาดทุนแล้ว ยังอาจยิ่งบั่นทอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในภาวะที่ยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการแพร่ระบาดของโควิดที่ยังไม่ได้หมดไป อีกทั้งยังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาขีดจำกัดในฝั่งอุปทาน เช่น การขาดแคลนแรงงานและความแออัดในท่าเรือของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยผลักดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้น
ทั้งนี้ ต้องติดตามประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ รวมถึงประมาณการการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Fed Dot Plot) ที่ Fed จะเผยแพร่ในการประชุมวันที่ 14-15 ธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่ Fed จะปรับประมาณการเงินเฟ้อสูงขึ้นให้สอดคล้องกับภาวะที่เกิดขึ้น ประกอบกับมีความเป็นไปได้ที่ Fed Dot Plot จะบ่งชี้การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าการแถลงประมาณการครั้งก่อนในเดือนกันยายน 2021 โดยอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 2 ครั้งในปีหน้า
อย่างไรก็ดี Fed มีแนวโน้มที่จะยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังและคงไม่ปรับประมาณการเงินเฟ้อสูงกว่าที่ควร เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะส่งสัญญาณการปรับทิศทางนโยบายการเงินเป็นแบบตึงตัวเร็วกว่าที่ตลาดคาด อันจะก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินได้
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP