6 ธันวาคม เวลา 4.00 น. ตูน บอดี้สแลม เริ่มออกวิ่งอีกครั้ง หลังจากหยุดพักเป็นเวลา 2 วันเต็ม เมื่อวิ่งมาถึงกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม โดยวันนี้ตูนเริ่มต้นวิ่งออกจากโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ ผ่านพระราชวังดุสิต แยกผ่านฟ้า สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลศิริราช จากนั้นจะใช้เส้นทางถนนบรมราชชนนีขาออกไปจนถึงวงแหวนกาญจนาภิเษกเพื่อไปยังบางบัวทอง ผ่านจังหวัดนนทบุรีและไปสิ้นสุดจุดสุดท้ายที่สุพรรณบุรี จังหวัดบ้านเกิดของเขาเป็นระยะทาง 50.10 กิโลเมตร
การวิ่งผ่านไป 2 เซตด้วยความเรียบร้อย ถือว่าตูนวิ่งทำความเร็วได้ดี มีการหยุดถ่ายรูปและเซ็นลายเซ็นน้อย เนื่องจากต้องการวิ่งออกจากกรุงเทพฯ ให้ได้ก่อนเที่ยงวัน เพื่อทำให้การจราจรติดขัดน้อยที่สุด
หลังผ่านระยะทาง 1,300 กิโลเมตรมาได้ THE STANDARD มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับตูนก่อนวิ่งเล็กน้อย ตูนเล่าให้ฟังว่าการวิ่งวันนี้ทำให้นึกถึงตัวเองเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในวันที่วิ่งอยู่ในสวนสาธารณะแล้วโดนคุณลุงวิ่งแซงผ่านหน้าตัวเขาไป
“ตั้งแต่วันนั้นที่ผมได้เริ่มต้นวิ่งอย่างจริงจังมากขึ้น การวิ่งทำให้ผมรู้จักร่างกายและชีวิตของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ จากตอนนั้นที่ผมวิ่งเพื่อร่างกายที่แข็งแรง วิ่งเพื่อเอาชนะอะไรบางอย่าง แต่พอผ่านระยะทางที่มากขึ้น เป้าหมายของผมก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป จนตอนนี้กลายเป็นวิ่งระยะทาง 2,000 กว่ากิโลเมตร เพื่อหาเงินซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งนอกเหนือจากตัวเงินที่ได้ การวิ่งยังบอกผมอยู่เสมอว่า คนเราสามารถทำในสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จได้อยู่เสมอ”
สรุปการวิ่งในโครงการก้าวคนละก้าวหลังผ่านไปแล้ว 36 วัน ตูนวิ่งไปแล้วทั้งหมด 1,318 กิโลเมตร เวลาทั้งหมด 240 ชั่วโมง ยอดบริจาครวม 572 ล้านบาท และทางเพจก้าวจะเริ่มเปิดประมูล ‘ใต้สุด’, ‘ฝ่าฝน’, ‘สู้ๆ’ และ ‘พี่ตูนสูญ’ รองเท้าวิ่ง 4 คู่ ที่ตูนตั้งชื่อตามเหตุการณ์ประทับใจระหว่างครึ่งทางแรกของการวิ่งเป็นครั้งแรกอีกด้วย