วันนี้ (28 เมษายน) กัณวีร์ สืบแสง สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความตั้งข้อสังเกตถึงการเจรจาต่อรองไทย-สหรัฐฯ กับการชะลอการเดินทางทีมเจรจาไทยไปสหรัฐฯ เกี่ยวข้องกับการผลักดันชาวอุยกูร์ด้วยหรือไม่
กัณวีร์ ระบุว่า “หลายคนถามมานะครับ เลยแจงเป็นข้อมูลให้ทราบถึงเรื่องการตัดสินใจของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่มีสมาชิกต้องไปกับทีมไทยเพื่อเจรจาด้วยน่าคิดเห็นฟูอาดี้ พิศสุวรรณโพสต์เรื่องครบ 2 เดือนการผลักดันกลับ 40 ชีวิตชาวอุยกูร์กลับไปจีนแล้ว และญาติพี่น้องของ 40 ชีวิต อย่างน้อย 3 ครอบครัวไม่สามารถติดต่อญาติตัวเองได้ รวมทั้งมีชายชาวอุยกูร์คนหนึ่งที่น่าจะอยู่ในกลุ่ม 200 กว่าคนที่โดนจับที่ไทยเมื่อปี 2557 แต่หนีไปตุรกีได้บอกว่ารู้จักทั้ง 40 คน แต่ไม่สามารถติดต่อใครได้เลยนั้น คงไม่ใช่เรื่องเกินคาด แต่เป็นเรื่องเกินคาดที่เลวร้ายในสังคมมนุษย์ที่รัฐบาลไทยที่นำโดยแพทองธาร ชินวัตร ต้องรับผิดชอบ
“เกี่ยวกันมั้ยกับการที่ไทยสลับสับขาบอกว่ายังไม่พร้อมไปพบสหรัฐฯ เพราะต้องเตรียมพร้อมหลายๆ เรื่องเพราะการไปคุยกับสหรัฐฯ ครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว มันมีเรื่องความมั่นคงและอีกหลายอย่าง ผมเชื่อนะว่า 1 ในหลายอย่างนั้น คือ เรื่องที่ไทยผลักดันชาวอุยกูร์ 40 ชีวิตกลับจีน ที่ทำให้ทั้งโลกเห็นว่าไทยเข้าข้างจีนอย่างมาก และที่สำคัญ 1 ในคนที่ติดร่างแหการตัดสินใจผลักดันอุยกูร์กลับครั้งนี้ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพราะเป็น 1 ในสมาชิกสภาความมั่นคงแห่งชาติที่ร่วมตัดสินใจในครั้งนั้น กลัวแหละเพราะรัฐบาลสหรัฐฯ แจ้งแล้วว่า Blacklist คนที่สมรู้ร่วมคิดในครั้งนี้ซึ่งรวมถึงสมาชิกในครอบครัวด้วย
“เพราะไม่แน่ใจว่าพอเดินทางเข้าประเทศเขาแล้ว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ บอกว่า “you” รัฐมนตรีของไทยห้ามเข้าประเทศ “I” อายมั้ย ชะลอเถอะครับ อายเขาหรือไม่ก็แต่งตั้งรัฐมนตรีคนอื่นใน ครม. ที่ไม่ได้อยู่ในสภาความมั่นคงแห่งชาติในการตัดสินใจในครั้งนั้นไปแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
“เตือนหลายครั้งแล้วครับว่าเรื่องสิทธิมนุษยชนมันมีผลกระทบสูงในเวทีระหว่างประเทศ นี่ยังเหลืออุยกูร์อีก 5 คนในเรือนจำที่รัฐบาลชุดนี้ยังยืนยันจะผลักดันกลับจีนเมื่อเขาออกมาทั้งๆ ที่เขาไม่ได้อยากกลับ ทำให้ดีโลกจับตาอยู่ครับ”
อ้างอิง:
