วันนี้ (26 มีนาคม) ที่ลานตลาดนัดวันอาทิตย์ จังหวัดกำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัย นำโดย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร., ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค, ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดพะเยา พรรค พปชร. และ วราเทพ รัตนากร กรรมการฝ่ายนโยบาย โดยมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดกำแพงเพชร ทั้ง 4 เขต โดยมีประชาชนร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 10,000 คน
พล.อ. ประวิตรได้ขึ้นลิฟต์เคลื่อนที่ รถยกไฮโดรลิก พร้อมกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตนรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมากที่ได้มาอยู่ท่ามกลางชาวจังหวัดกำแพงเพชร เราจะทำทุกอย่างเพื่อจะก้าวข้ามความยากจน เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของจังหวัดกำแพงเพชร
ส่วน ร.อ. ธรรมนัสกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ฝากไปบอกพรรคอื่นด้วยว่า อย่าคิดมาตีจังหวัดกำแพงเพชร มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเราจะสร้างป้อมหน้ากำแพงเพชร ใครเข้ามาเรามีป้อม เราจะกันให้หมด ซึ่งหัวหน้าพรรคเราชื่อ ‘ลุงป้อม’ เราจะตั้งป้อมหน้ากำแพงเพชร ไม่ให้ใครมาตีกำแพงเพชรได้ นโยบายสำคัญของเราคือการก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่เอาแล้วสีเหลือง สีแดง สีน้ำเงิน ประเทศไทยต้องเป็นหนึ่งเดียว เรามีธงชาติธงเดียวสามสี แดงขาวน้ำเงิน สามเสาหลักต้องอยู่คู่บ้านคู่เมือง ดังนั้นเราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง นำประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน
“พรรคอื่นอย่าคิดเข้ามาตีกำแพงเพชร เพราะจังหวัดนี้เป็นของพรรคพลังประชารัฐ” ร.อ. ธรรมนัสกล่าว
ขณะที่ชัยวุฒิได้กล่าวตอนหนึ่งว่า บางคนบางพรรคยังพูดถึงโครงการเก่าในอดีตโดยไม่ดูบริบทการเมือง เปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว ผมลงพื้นที่ สงสารพี่น้องประชาชน บางพรรคยังพูดถึงกองทุนหมู่บ้าน นโยบายเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งที่ตนเองได้ลงพื้นที่นั้น ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันมากจากกองทุนหมู่บ้าน เพราะเม็ดเงินที่เอาไปใช้นั้นได้หมดไปแล้ว พรรคพลังประชารัฐจะยกเลิกกองทุนหมู่บ้าน ประชาชนจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้
ชัยวุฒิกล่าวต่อไปว่า เพราะเป็นกองทุนที่สร้างหนี้ให้กับประชาชน จากนี้จะได้ไม่ต้องสร้างหนี้ให้กับประชาชน เราต้องมองอนาคต ต้องมองนโยบายของพรรคการเมืองที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ พร้อมมองว่ามีบางพรรคการเมืองได้คิดนโยบายที่ไกลเกินไป การเลือกตั้งนั้นให้มาเปลี่ยนรัฐบาล แต่อยากเปลี่ยนประเทศไทย คิดว่าทำได้ไหม
ชัยวุฒิยกตัวอย่างว่า “ถ้าคนเราเห็นว่าโลกที่เราอยู่มันไม่ดีและมีปัญหา แล้วอยากเปลี่ยนโลกนั้น มีแต่คนบ้าเท่านั้น เพราะโลกเปลี่ยนไม่ได้ แต่ทำให้โลกนี้ดีได้โดยการตั้งใจทำความดี ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง แต่บางพรรคคิดไกลกว่านั้น ไกลแบบที่ไม่รู้ว่าคิดอะไร ไม่อยากเปลี่ยนรัฐบาล แล้วอยากเปลี่ยนอะไร แล้วเรายอมให้เปลี่ยนไหม เขาปลุกระดม ให้ข้อมูลผิดๆ ทำให้คนแตกแยก ทะเลาะกัน ซึ่งนี่คือนโยบายสำคัญของพรรคพลังประชารัฐที่จะมาก้าวข้ามความขัดแย้ง”
ชัยวุฒิยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า วันนี้ติดตามจากสื่อเห็นว่าโพลต่างๆ ไม่มีชื่อของ พล.อ. ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่รู้ว่าลืมใส่หรือลุงป้อมไม่ได้จ่ายเงิน การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของพวกเรา เพราะเรามีนโยบาย มีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน และเขาก็จะผลักดันให้ พล.อ. ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อนำนโยบายต่างๆ มาทำประโยชน์ให้กับประชาชน ไม่มีการสืบทอดอำนาจ ไม่มีการเอาเปรียบใคร ทุกอย่างเป็นไปตามประชาธิปไตย
