วันนี้ (6 ส.ค.) นายสันต์ จรเจริญ ผอ.โครงการชลประทานเพชรบุรี เปิดเผยว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของน้ำเหนือเขื่อนแก่งกระจานลดลง
โดยวันนี้น้ำเพิ่มขึ้นเหลือประมาณชั่วโมงละ 1 ซม. จากเดิมอยู่ที่ประมาณชั่วโมงละ 2 ซม. ทำให้การที่น้ำจะล้นสันอ่างมีอัตราน้อยลง โดยน้ำที่ล้นสปิลเวย์จะไหลลงพื้นที่ อ.แก่งกระจาน ผ่านเขื่อนเพชร มาเข้าตัวเมืองเพชรบุรี ในอัตราที่ยังพอจัดการได้อยู่เพราะการที่น้ำไหลล้นสปิลเวย์ไม่ได้มาเป็นก้อนใหญ่ แต่จะค่อยๆ เพิ่มทีละเซนติเมตร ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงในแม่น้ำเพชรอย่างต่อเนื่องยังไม่ถึงกับน่ากลัว
แต่หากเมื่อไรมีปริมาณฝนตกเหนือเขื่อนแก่งกระจานซึ่งเป็นตัวแปรหลักๆ มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถที่จะควบคุมได้ ถ้าถึงระดับ 60-70 ซม. ขึ้นไป จะทำให้น้ำหลากเข้ามามากขึ้น อยู่ในเกณฑ์ 100 ลบ.ม/วินาที ประกอบกับน้ำที่ปล่อยทางด้านก้นอ่างประมาณ 100 ลบ.ม/วินาที รวมเป็น 200 ลบ.ม./วินาที ซึ่งไม่ได้ปล่อยเข้าตัวเมืองแบบเต็มๆ จะมีการบริหารจัดการที่ตัว ‘เขื่อนเพชร’ โดยการตัดน้ำออกไปที่คลองชลประทาน 4 สาย เป็นปริมาณน้ำ 50 ลบ.ม/วินาที ที่เหลือปล่อยสู่แม่น้ำเพชรผ่านตัวเมือง 150 ลบ.ม/วินาที
ขณะเดียวกันทางกรมชลประทานที่ได้มีการเร่งขุดเจาะคลองสายสาม เพื่อให้เป็นคลองระบายน้ำให้เชื่อมต่อกับคลองที่จะระบายสู่ทะเล ซึ่งจะสามารถระบายน้ำเพิ่มได้อีกประมาณ 30 ลบ.ม/วินาที ก็จะสามารถแบ่งเบาภาระของแม่น้ำเพชรบุรีที่จะเข้าสู่ตัวเมืองได้บ้าง อีกทั้งยังพอมีลุ้นว่าในพื้นที่ตัวเมืองเพชรบุรีน้ำอาจจะท่วมไม่รุนแรง
โดยกรมชลประทาน ชี้แจงว่า การไหลของน้ำที่ล้นสปิลเวย์ ไม่ทำให้เขื่อนเสียหาย ปริมาณที่ไหลผ่านสปิลเวย์ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นคล้ายกับการเอียงขันน้ำแต่น้อย เพื่อเทน้ำออกจากขัน ดังนั้นต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งกว่าน้ำจะไหลผ่านสปิลเวย์เต็มที่ อีกทั้งน้ำที่ล้นสปิลเวย์เขื่อนแก่งกระจาน ต้องใช้เวลา 24 ชม. กว่าจะถึงเขื่อนเพชรบุรี และเขื่อนเพชรบุรีจะสามารถหน่วงน้ำส่วนนี้ได้ช่วงเวลาหนึ่ง น้ำที่เกินจากเขื่อนเพชรบุรีต้องใช้เวลา 12 ชม. กว่าจะถึงตัวเมืองเพชรบุรี
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.45 น. มีรายงานว่าสถานการณ์ที่เขื่อนแก่งกระจาน น้ำเริ่มล้นสปิลเวย์ในบางพื้นที่แล้ว และคาดว่าน้ำจะไหลถึงเขื่อนเพชรในวันนี้เวลา 22.00 น. จากนั้นจะไหลถึง อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยประชาชนในพื้นที่เริ่มยกของขึ้นที่สูงและเตรียมพร้อมรับกับอุทกภัยที่คาดว่าจะมาถึง