ตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงประเทศไทยดิ่งลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาที่ร่วงหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่เป็นไปตามเป้า ส่งสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัว นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันด้วย
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดช่วงเช้าที่ 1,604.85 จุด ลดลง 18.52 จุดหรือ 1.14% มูลค่าการซื้อขายกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ส่วนการซื้อขายในช่วงบ่ายค่อนข้างทรงตัว โดยการซื้อขายวันนี้มีช่วงที่หลุด 1,600 จุด ลงที่ 1,595.40 จุดด้วย ซึ่ง ประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. กสิกรไทยประเมินว่า ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย โดยตลาดหุ้นขณะนี้อยู่ใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดของปีนี้ ซึ่งส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของตลาดหุ้นและพันธบัตรอายุ 10 ปี (Earning Yield Gap: EYG) ที่ระดับ 1,600 จุดอยู่ที่ 4.95-4.97% ซึ่งจุดที่เหมาะสมสำหรับการเข้าซื้อหุ้นเพื่อลงทุนคือที่ 1,590 จุด ซึ่ง EYG จะอยู่ที่ 5% โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจะมีภาวะที่ตลาดหุ้นมีลักษณะเช่นนี้และมักจะดีดกลับขึ้นไปเสมอ โดยมีเป้าหมายสำคัญที่ 1,800 จุด
ประกิตชี้ให้เห็นว่า ตลาดหุ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นบวกกว่า 30% แล้วจึงเป็นเรื่องปกติที่ดัชนีจะปรับลงระดับ 8-10% ส่วนการลงทุนในช่วงนี้ควรเป็นการซื้อเพื่อถัวเฉลี่ยหุ้นในพอร์ตที่มี เหมาะกับการลงทุนระยะยาวในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ยังมีผลประกอบการที่แข็งแรง รวมถึงหุ้นกลุ่มสื่อสารด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า