เกาะสวรรค์ น้ำใส และหาดปลาดาวอย่าง ‘ฟูโกว๊ก’ นอกจากจะเต็มไปด้วยเรื่องราวเบื้องหลังที่อิ่มด้วยประวัติศาสตร์ที่ทั้งสวยงามปนขมขื่น กระนั้นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่นี้ก็ค่อยๆ เปิดตัวสู่โลกภายนอก และความที่ยังเป็นดินแดนแห่งใหม่คู่กับการผลักดันและลงทุนจากรัฐบาลเวียดนามให้กลายเป็นเกาะสำคัญทางธุรกิจและการท่องเที่ยว ที่พักน้อยใหญ่จึงค่อยๆ ผุดขึ้นเรียงรายเพื่อรองรับเหล่าอาคันตุกะที่เดินทางมาเพื่อทำความรู้จักฟูโกว๊กให้มากขึ้น
และสถานที่ที่โผล่ขึ้นมาบนหน้าเสิร์ชของกูเกิลเมื่อหาข้อมูลถึงวิมานแห่งใหม่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้หนีไม่พ้นรีสอร์ตหน้าตาโอ่อ่าชวนตระการตาด้วยรายละเอียดของงานดีไซน์ จะว่าเหมือนสวนสนุกของนักเดินทางช่างฝันก็ไม่เกินจริง ที่นี่คือ JW Marriott Phu Quoc Emerald Bay Resort & Spa
บริเวณล็อบบี้
The Mood
หากความคิดที่ว่าคุณถูกย่อส่วนและกำลังย่างฝีเท้าเข้าสู่ดินแดนจำลองสีพาสเทลสวยน่าดึงดูดแบบหลงไปในหนังของเวส แอนเดอร์สัน (Wes Anderson) นั้นทำให้คุณหัวใจเต้นรัว JW Marriott Phu Quoc Emerald Bay Resort & Spa อาจเป็นดังสนามเด็กเล่นโปรดได้ไม่ยาก เพราะแดนสุนทรีย์แห่งนี้สอดแทรกไว้ด้วยกิมมิกสนุกๆ อยู่ทุกมุม ซึ่งดึงดูดกล้องถ่ายรูปยิ่งนัก นับตั้งแต่ทางเข้าที่มีสุนัขหลังอาน 2 ตัว ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์ท้องถิ่นนั่งประจำการคอยต้อนรับขับสู้ ทันทีที่รถค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าจอดที่ล็อบบี้ ความคิดแรกที่อาจแวบเข้ามาในหัวหนีไม่พ้น ‘นี่มันมหาวิทยาลัยนี่?’
(บน) อธิการบดีคนแรก ไท คอลลินส์ (ล่าง) บรรยากาศบริเวณล็อบบี้
ถูกต้องแล้ว นี่คือมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเกาะฟูโกว๊กที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ ฌอง-บับติสต์ ลามาร์ก (Jean-Baptiste Lamarck) นักธรรมชาตินิยมชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้วางพื้นฐานทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน และว่ากันว่ามหาวิทยาลัยลามาร์กเป็นสถาบันของชาวฝรั่งเศสที่ดั้นด้นมาอยู่บนเกาะช่วงยุคต้นศตวรรษที่ 20 ก่อนจะปิดตัวลงในทศวรรษ 1940 โดยคุณจะได้เห็นรูปปั้นของชายใส่แว่น นั่นคือ ไท คอลลินส์ อธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่บริเวณทางเดินล็อบบี้สู่ห้องพัก… แต่ช้าก่อน เพราะทั้งหมดนี้คือเรื่องแต่งขึ้นล้วนๆ!
เพดานสูงโปร่งรับแสงธรรมชาติที่ล็อบบี้
กิมมิกยักษ์ใหญ่ถูกออกแบบไว้ให้ ‘นักศึกษา’ ทุกคนได้สนุกไปกับเรื่องราวซึ่งออกแบบอย่างแยบยลและประณีตจนต้องยกมือปรบให้กับ บิล เบนส์ลีย์ (Bill Bensley) พ่อมดขมังเวทย์ชาวอเมริกันผู้ขยันออกแบบรีสอร์ตหรูให้สดใหม่ แปลกตา และจากการไปเยือนผลงานสร้างสรรค์ของเขามาหลายพิกัด (เช่น InterContinental Danang Sun Peninsula Resort ที่เวียดนาม, The Slate ภูเก็ต ฯลฯ) สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนสนามประลองเวทย์ที่เขาได้เล่นได้ลองอย่างมีอิสระที่สุดแห่งหนึ่งก็ว่าได้ โดยเฉพาะส่วนของสปาที่ออกแบบตามจินตนาการเพ้อฝันของ Alice in Wonderland ทั้งของประดับเห็ดนานาชนิด กระทั่งทางเดินที่ใช้เส้นโค้งสมมาตรสร้างมิติที่รู้สึกเหมือนเดินแล้วตัวเล็กลงเรื่อยๆ!
ห้องแบบวิลล่า
The Room
โรงแรมมหาวิทยาลัยบนหาดแสนสงบของฟูโกว๊กแห่งนี้มีห้องพักทั้งหมด 9 ประเภท ห้องชุดและวิลล่ารวม 244 ห้อง อยู่ตามตึกเฉดสีพาสเทล (นึกถึงเมืองในหนัง Edward Scissorhands) แต่ละตึกถูกตั้งชื่อตามแผนกวิชาการ หรือคณะที่แตกต่างกัน เช่น Department of Agriculture, Department of Physical Education ฯลฯ และแต่ละตึกประดับประดาไปด้วยกิมมิกเล็กๆ ที่บ่งบอกถึงคณะที่คุณกำลังเข้าพักอยู่ เช่น รูปปั้นสัตว์เลื้อยคลาน หรือภาพแมลง ห้องพักทุกห้องหันหน้าเข้าสู่มหาสมุทรอันเงียบสงบ ทั้งยังมีระเบียงและโซฟาด้านนอกให้เหยียดยาวกันตามอัธยาศัย
ห้องพักเล่นสีสันชวนมองตามภาควิชาต่างๆ
ส่วนใครที่เลือกนอนพักชั้นล่างก็มีสวนส่วนตัวและสามารถเดินไม่กี่ก้าวไปถึงสระว่ายน้ำทั้ง 3 สระที่หันหน้าออกสู่ทะเลได้สบายๆ ส่วนภายในห้องก็สวยจับใจต่างกันออกไปจนยากจะเลือกภาควิชาที่อยาก ‘ลงเรียน’ เพราะการใช้สีสันที่แสนจะกล้าแกร่ง ทั้งสีแดง สีฟ้าเทอร์ควอยส์ สีฟ้าและสีเขียวสำหรับงานตกแต่งภายในเพื่อให้รับกับน้ำทะเลสีมรกตและภูมิทัศน์เขียวชอุ่มที่รายล้อม เขาใช้เครื่องเรือนไม้สีเข้มสั่งทำพิเศษ เติมลวดลายที่ดูเหมือนจะเยอะ แต่กลับ ‘พอดิบพอดี’ ได้อย่างมีรสนิยม
(บน) ห้องสวีททาวเวอร์สุดอลังการ (ล่าง) ห้องอาบน้ำที่เชื้อเชิญให้หย่อนร่างเป็นที่สุด
ห้องพักที่เราเช็กอินมีเตียงใหญ่หนานุ่มตั้งอยู่กลางห้องที่จัดสรรพื้นที่อย่างชาญฉลาด มีความกะทัดรัดที่ทำให้เดินรอบห้องได้อย่างไม่รู้สึกโหวงเหวงเพราะโล่งเกินไป และห้องอาบน้ำเพดานสูงสีขาวอันแสนโอ่อ่า ฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์บนพื้นหิน แลดูลักซูรีขั้นสุด พร้อมอ่างอาบน้ำสีขาวที่แสนจะเชื้อเชิญให้ลงไปแช่น้ำเหลือเกิน
ห้องอาหารจีน Pink Pearl
The Bites
แม้จะรู้สึกราวกับติดเกาะ แต่อาหารการกินที่นี่ดีงามจนไม่รู้สึกเบื่อสักนิด เพราะมีห้องอาหารด้วยกันถึง 5 ห้อง! ได้แก่ ห้อง Tempus Fugit ที่แปลว่า ‘เวลาโบยบิน’ ที่นั่งแล้วเวลาโบยบินสมชื่อ เพราะมีอาหารให้ลองให้เลือกเยอะ ทั้งเวียดนาม ญี่ปุ่นประยุกต์ ไปจนฝรั่งเศสคลาสสิก หรืออาหารเช้าที่มีให้เลือกหลากหลายมุม ขนาดมาพัก 4 คืนยังลองชิมไม่หมด และยังมีห้องอาหาร Red Rum ที่เสิร์ฟอาหารบิสโทรกินง่าย เหมาะกับการสั่งเบอร์เกอร์ง่ายๆ แต่อร่อยมานั่งหม่ำหน้าหาด ห้อง French & Co เสิร์ฟอาหารพาสทรีร้อนๆ ได้อร่อยล้ำแบบขนมปังฝรั่งเศสแท้ๆ เหมาะละเลียดกับกาแฟขณะอ่านนิตยสารยามบ่าย
เฝอกับกาแฟเวียดนามเข้มข้นยามเช้าที่ Tempus Fugit
ตกค่ำแล้วมุ่งตรงมาที่ Department of Chemistry (ที่ถ้าแซม ทาร์ลีย์ แห่ง Game of Thrones เดินทางมาเห็น เขาต้องเห็นด้วยว่านี่คือเมืองซิตาเดลสีลูกกวาดอย่างแน่นอน) จากการตกแต่งด้วยเพดานสูงราวกับวิหารกับโคมไฟแลดูศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมาถึงแล้วให้เหล่า ‘นักเคมี’ ผสมเครื่องดื่มชวนหน้าร้อนผ่าวติดดีกรีขณะเอนหลังบนเตียงจิ๋ว เหมาะแก่การเคล้าสายลมทะเลจากอ่าวเอเมอรัลด์ เบย์ เอามากๆ นอกจากนี้ยังมีห้องอาหาร Pink Pearl ที่ชมพูสมชื่อ ตกแต่งอย่างงดงามในสไตล์จีน เสิร์ฟอาหารจีนกวางตุ้ง
(บน) รายละเอียดของ Department of Chemistry (ล่าง) อาหารเช้าสดใหม่จากเตาสไตล์ฝรั่งเศส
มหาวิทยาลัยสีพาสเทลที่เต็มไปด้วยสารพัดเรื่องเล่าบนอ่าวเอเมอรัลด์ เบย์
What to Do
- ด้วยความที่ทะเลหน้าอ่าวนิ่งราวกับสระน้ำและเต็มไปด้วยปลาดาว (ใช่แล้ว!) จึงเหมาะที่สุดแก่การทำกิจกรรมทางทะเลของทุกคนในครอบครัว ทั้งยังมีกิจกรรมพายเรือคายัก ดำน้ำ นั่งเรือชมรอบเกาะ นอกเหนือจากนั้นก็มีปั่นจักรยานสำรวจเกาะด้วย
- คนรักการขยับแข้งขยับขาสามารถเช็กตารางกิจกรรมต่างๆ ได้กับทางโรงแรม เพราะล่าสุดที่เราไปมีคลาสโยคะเบียร์ด้วยนะ!
- จากโรงแรมเข้าสู่ตัวเมืองใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที เพื่อชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น เรือนจำมะพร้าว โรงงานน้ำปลา เจดีย์ไร้เรื่อง ฯลฯ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)
(ล่าง) สปาที่ชวนหลงไปในโลกของ Alice in Wonderland
Our Favourites
- หากอากาศไม่เป็นใจหรือมีเวลาเหลือล้นในมือ แค่ได้เดินสำรวจของตกแต่งภายในล็อบบี้ก็เพลินใจแล้ว ลองเปิดสมุดบันทึกเล่มยักษ์เก่าๆ ดูสิ นี่ไม่ใช่ของจำลองที่ทำขึ้น แต่เป็นสมุดบันทึกการเงินจริงๆ ที่อายุอานามอาจมากกว่าคุณทวดเสียอีก!
- การนั่งริมหน้าต่างรับแดดอ่อนๆ ยามเช้าขณะชมวิวทะเลพร้อมกับละเลียดกาแฟเวียดนามหอมกรุ่นรสนุ่ม (ที่เติมเท่าไรก็ได้) ในห้องอาหาร Tempus Fugit ช่างเป็นนาทีพิเศษ
- ตามหาห้องน้ำบ้านสุนัขที่เดินเข้าไปแล้วชวนตะลึงตรงที่รู้สึกราวกับเดินลอดใต้ท้องเจ้าตูบ กระจกรูปปลอกคอยักษ์ คนรักสุนัขจะต้องถ่ายรูปไม่หยุด
- ทะเลนิ่งราวกับสระน้ำแบบนี้ ทำให้การพายแพดเดิลบอร์ดเป็นเรื่องหมูๆ เพราะน้ำทะเลสุดนิ่งของที่นี่คือที่ฝึกอันแสนวิเศษ หรือจะลองฝึกความตัวอ่อนกับคุณครูที่คลาสโยคะบนเซิร์ฟบอร์ดยามเย็น รับรองว่าถึงแม้คุณจะไม่เคยเล่นโยคะมาก่อนเลยในชีวิต แต่อย่างน้อยก็ได้เสียงหัวเราะแน่นอน
ก่อนเดินทางมา ขอแนะนำให้เคลียร์ความจำในกล้องเอาไว้ให้มาก เราเตือนคุณแล้วนะ…
JW Marriott Phu Quoc Emerald Bay Resort & Spa
Address: Bai Khem, Phu Quoc District, An Thoi Town, Vietnam
Budget: เริ่มต้นที่ 13,500 บาทต่อคืน
Contact: +84 297 377 9999
Website: www.marriott.com/hotels/travel/pqcjw-jw-marriott-phu-quoc-emerald-bay-resort-and-spa
Map:
Photo: พฤภัทร ทรงเที่ยง, JW Marriott Phu Quoc Emerald Bay
- ถนน Rue de Lamarck สายหลักที่เชื่อมตึกต่างๆ เข้าด้วยกันยังถูกจำลองให้รู้สึกคล้ายเดินอยู่เมืองเก่าแต่เก๋าอย่างถนนโบราณของฮอยอันมีร้านค้าเรียงราย โดยผสมผสานอิทธิพลสถาปัตยกรรมจากจีน ญี่ปุ่น และตะวันตก
- เพื่อให้การออกแบบวิจิตรพิสดารถอดจากจินตนาการของบิล เบนส์ลีย์ ทีมงานของเขาต้องเดินทางไปทั่วยุโรปหลายครั้งเพื่อสรรหาของเก่าและเครื่องเรือนดั้งเดิมมากกว่า 5,000 ชิ้นเพื่อตกแต่งรีสอร์ต เห็นได้จากชุดกีฬามหาวิทยาลัยเก่าๆ ที่ประดับอยู่ระหว่างทางเดินไปห้องพัก และยังมีเครื่องเรือนย้อนยุค อุปกรณ์การเรียนการสอน เครื่องมือช่างไม้ งานพิมพ์ และภาพวาดลายเส้นต่างๆ ที่แสดงวิวัฒนาการของมนุษย์และธรรมชาติ รวมถึงของล้ำค่าอื่นที่ซ่อนตัวอยู่ทั่วรีสอร์ตให้ได้ชม
- สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส บินตรงจากกรุงเทพฯ ไปท่าอากาศยานนานาชาติฟูโกว๊ก สำรองที่นั่งได้ที่ www.bangkokair.com