วันนี้ (3 พฤษภาคม) สำนักงานศาลยุติธรรมส่งเอกสารชี้แจงการดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาและมีคำสั่งในคดีทั้งปวง โดยระบุว่า ศาลยุติธรรมให้ความสำคัญกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นเสมอมา และรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะความคิดเห็นทางวิชาการที่มุ่งก่อให้เกิดความสร้างสรรค์และพัฒนาการบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมที่เกิดขึ้นบริเวณศาลอาญาเมื่อคืนวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่บุคคลจำนวนหนึ่งใช้ความรุนแรงด้วยการขว้างปาสิ่งของ ใช้เครื่องมือยิงวัสดุเข้ามาในอาคารศาล การใช้วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง จนเกิดความเสียหาย ความรุนแรงและไม่สงบขึ้นนั้น นอกจากจะเป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในบริเวณศาลอาญา ถือไม่ได้ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นในระบอบประชาธิปไตยและอันเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยชอบธรรมภายในกรอบของกฎหมาย
อีกทั้งยังมีลักษณะของการก้าวล่วงใช้ความรุนแรงเพื่อแทรกแซง โดยหวังผลให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาไปในทางหนึ่งทางใดตามที่กลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงมุ่งประสงค์ โดยไม่ต้องคำนึงถึงหลักเกณฑ์ของกฎหมาย อันเป็นการมุ่งทำลายความอิสระของตุลาการตามรัฐธรรมนูญ นอกจากการใช้ความรุนแรงดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันยังมีพฤติกรรมทำนองขู่เข็ญและสร้างความหวาดกลัว ไม่เพียงแก่บุคลากรในศาลยุติธรรมเท่านั้น หากแต่ยังมีการขู่เข็ญและสร้างความหวาดกลัวไปยังบุคคลในครอบครัวของผู้พิพากษาและบุคลากรในศาลยุติธรรมด้วย
ทั้งๆ ที่บุคคลดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาพิพากษาคดีแต่อย่างใด พฤติกรรมดังกล่าวที่มีการกระทำในลักษณะเป็นขบวนการ ใช้สื่อโซเชียลต่างๆ ล้วนมุ่งหวังให้เกิดผลในทำนองเดียวกับการใช้ความรุนแรงข้างต้น ที่ต้องการให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งในทางที่ตนเองหรือขบวนการของตนต้องการโดยไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์ของกฎหมาย จึงไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นหรือการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญอันชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย
ในการนี้ สำนักงานศาลยุติธรรมจึงขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้ตรวจสอบการกระทำและพยานหลักฐานที่ปรากฏ หากมีการกระทำใดที่เป็นการละเมิดหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการของกฎหมายอย่างเคร่งครัด และขอให้พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนแสดงความคิดเห็นและใช้เสรีภาพของตนอย่างสันติ ด้วยความสงบ และงดเว้นการกระทำใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายแก่ชีวิต เป็นภยันตรายแก่ร่างกาย หรือสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินไม่ว่าของส่วนบุคคลหรือของทางราชการ และให้การดำเนินกระบวนพิจารณาต่างๆ ดำเนินไปตามครรลองของกฎหมายที่มีการตรวจสอบและถ่วงดุลตามที่กฎหมายกำหนด
ในการพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวง ศาลยุติธรรมทุกศาลจะยังคงทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ปราศจากอคติ พิพากษาและมีคำสั่งให้คู่ความทุกฝ่ายได้รับความยุติธรรมภายใต้กรอบของกฎหมายอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันต่อไป
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล