×

จุรินทร์ถามจุดยืนรัฐบาลจะอยู่ฝ่ายใดในสงครามการค้า ขณะที่ธนกรชี้ อดีตผู้นำเพื่อไทยเก่ง ชวนเป็นล็อบบี้ยิสต์เจรจาทรัมป์

โดย THE STANDARD TEAM
09.04.2025
  • LOADING...
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อภิปรายในสภาถามจุดยืนรัฐบาลในสงครามการค้า ขณะที่ธนกรเสนอใช้อดีตผู้นำเพื่อไทยเจรจาทรัมป์

วันนี้ (9 เมษายน) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 30 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 วาระพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องการพิจารณาศึกษาผลกระทบและแนวทางรับมือมาตรการการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไทยของสหรัฐอเมริกาภายใต้รัฐบาลทรัมป์ 2.0 ซึ่ง สส. ได้อภิปรายแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง

 

ในช่วงหนึ่ง จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย ว่า การดำเนินการของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจมีการเพิ่มเติมมาตรการขึ้นมาได้อีก หากมาตรการที่ออกมานี้ยังไม่ได้ผล และหากประเทศคู่ค้าใดใช้มาตรการตอบโต้สหรัฐอเมริกา ก็อาจมีการพิจารณาเพิ่มหรือขยายขอบเขตการจัดเก็บภาษีได้อีก ซึ่งประเทศใดยอมแก้ไขและเยียวยาให้กับสหรัฐฯก็อาจมีการพิจารณาปรับลด หรือจำกัดขอบเขตภาษีที่จัดเก็บให้

 

ดังนั้น หากเปรียบเทียบประกาศฉบับนี้กับแผ่นดินไหว ถ้าเกิดการตอบโต้ ก็อาจจะกลายเป็นอาฟเตอร์ช็อก และอย่าคิดว่าจะจบลงเท่านี้ อาจมีอะไรตามมาอีกก็ได้ ดังนั้น รัฐบาลต้องไม่นิ่งนอนใจ เพราะตลาดสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะข้าว ยางรถยนต์ และวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งจะกระทบต่อเกษตรกร และการส่งออกข้าวของประเทศไทย จะต้องมีการแข่งขันกับประเทศเวียดนาม เพราะเมื่อบวกภาษีเข้าไปแล้ว ราคาข้าวของเราจะแพงกว่าเกือบเท่าตัว ซึ่งจะนับเป็นดาบสาม ที่จะส่งผลต่อชาวนา

 

จุรินทร์ย้ำว่า รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการให้ถูกทาง โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลประกาศอย่างแข็งขันว่า จะไม่เอามาตรการประกันรายได้เกษตรกร พร้อมตั้งคำถามว่า จะช่วยผู้ส่งออกและชาวนาอย่างไร ทั้งยังต้องเตรียมมาตรการสำหรับสินค้ายาง เนื่องจากในการซื้อขายจะต้องมีการตกลงราคากันก่อนล่วงหน้า แต่หากถึงวันที่จะมีการปรับภาษีขึ้น จะเกิดการยกเลิกสัญญาหรือไม่ รวมถึงกระแสข่าวรัฐบาลจะต่อรองด้วยการนำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งราคาข้าวโพดในประเทศตกต่ำอยู่แล้ว ก็ต้องดูแลเรื่องผลกระทบให้ดี

 

จุรินทร์ยังมองว่า การประกาศกำแพงภาษีครั้งนี้ของสหรัฐอเมริกา คือการใช้อำนาจซื้อที่เหนือกว่าประเทศอื่น และการกำหนดกติกาฝ่ายเดียว ถือเป็นการท้าทายกติกาการค้าแบบพหุภาคี ที่ทั้งโลกยืนยันร่วมกันมานาน ภายใต้องค์การการค้าโลก ที่สำคัญผลจากสงครามการค้าครั้งนี้ มีนักวิชาการหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็น ว่ามีการแบ่งโลกเป็น 4 กลุ่ม คือ สหรัฐฯ กับพันธมิตร, จีนกับพันธมิตร, สหภาพยุโรปกับพันธมิตร และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

 

“สุดท้าย จึงขอถามไปยังรัฐบาล ว่าประเทศไทยจะยืนอยู่จุดไหน และยืนอย่างไร เพื่อให้ดำรงอยู่ได้ท่ามกลางปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และภูมิเศรษฐศาสตร์ที่เข้มข้น อย่างมีอนาคต หากรัฐบาลมีคำตอบแล้ว ผมก็ขอให้กำลังใจ แต่ถ้ายังไม่มีคำตอบ ก็ต้องเร่งหาคำตอบ เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้นอนตาหลับ” จุรินทร์ทิ้งท้าย

 

ไหว้วานอดีตผู้นำเพื่อไทยช่วยเจรจาทรัมป์

 

ขณะที่ ธนกร วังบุญคงชนะ สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า วันนี้หลายประเทศเริ่มเจรจากับสหรัฐฯ มีแต่จีนที่ตอบโต้ ส่วนประเทศอื่นก็เน้นเจรจา ล่าสุด 70 ประเทศ ได้ติดต่อไปเจรจา ส่วนตัวมองว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ใช้นโยบายบีบทุกประเทศ จัดระเบียบโลกใหม่ แต่พอบีบแล้วท้ายที่สุดเรียกไปเจรจา นี่คือยุทธศาสตร์ที่ทุกประเทศมองออก แต่ด้วยความเป็นประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่เหมือนคนอื่น ไม่เหมือนใคร เดาใจไม่ได้ ในการเจรจาต่างๆ รัฐบาลต้องใช้นโยบายเจรจาอย่างสร้างสรรค์และมียุทธศาสตร์ระยะยาว เชื่อว่าเป็นเรื่องยาก

 

ทั้งนี้ วันนี้ทีมไทยแลนด์จะต้องมีการประสานงานกับภาคเอกชน ธนกรเผยว่า ได้คุยกับประธานหอการค้าไทย ที่แจ้งว่าคุยกับรัฐบาลมานานแล้ว จึงไม่โทษรัฐบาล เพราะเห็นแล้วว่านายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการตั้งแต่ต้นปี ต้องมีการเจรจาต่อไป

 

ธนกรกล่าวต่อไปว่า ทีมไทยแลนด์ จะต้องมีการยกระดับคณะทำงานระดับชาติเชิงนโยบาย และต้องมีผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่มีเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) รัฐบาลควรมีที่ปรึกษา หรือใช้ล็อบบี้ยิสต์ในการเจรจา

 

“อยากให้นึกถึงอดีตผู้นำพรรคเพื่อไทย ผมคิดว่าท่านเก่ง และเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะฉะนั้น ไหว้วานท่านได้ไหม ช่วยเจรจากับทรัมป์ ผมเชื่อว่านักธุรกิจไทย เศรษฐีเมืองไทย ก็รู้จักกับผู้สนับสนุนทรัมป์หลายคน ไหว้วานได้หรือไม่ นี่เป็นเรื่องของประเทศชาติ ไม่ใช่เวลาที่ต่างคนต่างเอาตัวรอด ต้องร่วมมือกัน” ธนกรกล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising