วันนี้ (23 พฤษภาคม) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า สำหรับการตั้งรัฐบาลขณะนี้ก็มีความชัดเจนว่า 8 พรรคได้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ส่วนจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อมีหน้าที่ทำอะไรก็ต้องทำหน้าที่นั้นให้สมบูรณ์แบบที่สุด และประชาธิปัตย์เคยทำมาทุกหน้าที่อยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าสูตรพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมหรือไม่ จุรินทร์กล่าวตอบว่าสิ่งนั้นยังไม่เกิดขึ้น ขณะนี้ต้องถือว่าพรรคก้าวไกลร่วมกับอีก 7 พรรคการเมือง ทำหน้าที่ในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ไปเป็นอุปสรรคให้พรรคแกนนำตั้งรัฐบาลได้ทำหน้าที่ไป และหวังว่าจะทำได้สำเร็จ ส่วนการโหวตในสภานั้นเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ของพรรคที่จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้การรับรองก่อน จะโหวตอย่างไรนั้นตนไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ ซึ่งหลักของพรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจนอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ที่ประชุมพรรคจะเลือกจุรินทร์กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง จุรินทร์กล่าวตอบว่าตนคิดเพียงแต่ว่าจะส่งไม้ต่อให้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ให้ดีที่สุดได้อย่างไร ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการคุยกันในที่ประชุมคณะรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกับ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องจะวางมือทางการเมืองหรือไม่ จุรินทร์ตอบว่าตนไม่ขอก้าวล่วงท่านเลขาธิการ แต่ทั้งตนและเลขาฯ รวมถึงคณะกรรมการบริหารพรรคทุกคนยังต้องทำหน้าที่รักษาการต่อไปจนกว่าจะมีคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ตามข้อบังคับพรรค
ส่วนจุดยืนของพรรคมีความชัดเจนอยู่แล้ว ทั้งเรื่องประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น จุรินทร์กล่าวว่าจุดยืนในการทำหน้าที่พรรคการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดในทางการเมืองก็ตาม อันนี้มีความชัดเจนในตัวอยู่แล้ว และกลไกไหนที่เป็นผู้พิจารณาตัดสินเรื่องอะไรก็มีระบบระเบียบชัดเจนในตัวอยู่แล้ว
จุรินทร์ยังได้กล่าวถึงการโหวตในที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะเกิดขึ้น ก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณากันในที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคชุดใหม่ ในเรื่องของการตัดสินใจเรื่องอื่นทางการเมืองก็เป็นเรื่องที่ประชุมสมาชิกสภาและกรรมการบริหารพรรคที่จะต้องร่วมกันพิจารณาโดยมีหลักชัดเจนอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงบุคคลที่เหมาะสมจะมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จุรินทร์กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของสมาชิกทุกคนที่จะต้องช่วยกันคิดและความสมัครใจของเจ้าตัว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ ต้องนับหนึ่งจากการประชุมวันพรุ่งนี้ ซึ่งผลการประชุมเป็นอย่างไรโฆษกพรรคจะนำมาแถลงให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
“สิ่งหนึ่งที่ผมสามารถเรียนได้ในความเห็นส่วนตัว ควรจะได้มีการต่อยอดเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ๆ ได้เข้ามาขับเคลื่อนพรรคมากขึ้น จากตนได้ดำเนินการมาช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรม ถัดจากนี้คนรุ่นใหม่ก็ควรจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น” จุรินทร์กล่าว
