วันนี้ (4 พฤษภาคม) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดภูเก็ตและพังงา หาเสียง พร้อมกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมแกนนำพรรค และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะลงพื้นที่หาเสียงจังหวัดภูเก็ตและพังงาในสัปดาห์นี้ว่า
ยังมั่นใจคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้สมัครของจังหวัดภูเก็ตก็ยังมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง และหลังการปราศรัยก็ยิ่งทำให้ดีขึ้นไปอีก แต่สิ่งที่เป็นกังวลก็คือ การใช้เงินซื้อเสียง แต่เชื่อว่าคนใต้ซื้อไม่ได้
“อยากให้พี่น้องประชาชนคนใต้และพี่น้องทุกภาค อย่าพิจารณาการลงคะแนนเสียงจากเงินที่มาหยิบยื่นซื้อเสียง เพราะสิ่งนี้สุดท้ายจะหันกลับมาทำลายประเทศ และทำลายประชาธิปไตยระยะยาวด้วย ถ้าใครใช้เงินซื้อเสียงมาก เข้าไปถอนทุนคืน สุดท้ายก็เกิดการทุจริต คอร์รัปชัน สุดท้ายที่การยึดอำนาจมาทุกครั้งก็เพราะมีการทุจริตของรัฐบาลก่อนหน้านั้น ผมอยากให้ทุกคนช่วยกันตระหนักในเรื่องนี้ และเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศก็จะต่อต้านและไม่ยอมรับเรื่องนี้” จุรินทร์กล่าว
จุรินทร์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในการเลือกตั้งนี้ หมายถึงการเลือกอนาคตให้ประเทศ ว่าจะให้ใครเข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ และมาเป็นตัวกำหนดอนาคตประเทศ ดังนั้น จึงต้องเลือกพรรคการเมืองที่มั่นใจว่าจะพาประเทศรอด รอดทั้งทางเศรษฐกิจ และรอดทั้งทางการเมือง คือพาประชาธิปไตยรอดด้วย
“ผมมั่นใจว่าถ้าเราได้จัดตั้งรัฐบาล เราจะพาประเทศรอดในทางเศรษฐกิจ เพราะอดีตพิสูจน์มาแล้วทั้งตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล เราก็พาประเทศผ่านวิกฤตได้ ยุคแฮมเบอร์เกอร์พอประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล เราก็พาประเทศพ้นวิกฤตได้ เที่ยวนี้ปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญอยู่ ผมก็เชื่อว่าถ้าเราเป็นแกนตั้งรัฐบาล เราพาประเทศรอดได้แน่นอน และที่สำคัญคือเราพาประชาธิปไตยรอดด้วย เพราะประชาธิปัตย์ไม่โกง ที่ประชาธิปไตยไม่รอดกี่ยุคมาแล้ว รัฐบาลก่อนรัฐประหารโกงก็เลยเป็นปัญหา เพราะฉะนั้นคนไทยมั่นใจได้ว่าประชาธิปัตย์พาประเทศรอดได้ทั้งทางเศรษฐกิจและทางการเมือง ซึ่งทำให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างมั่นคง มีเสถียรภาพ และยั่งยืน” จุรินทร์กล่าว