×

จุลพันธ์รับข้อเสนอใช้ พ.ร.ก. แก้ปัญหา The iCon Group และแชร์ลูกโซ่ ชี้ควรแก้กฎหมายเพิ่มประสิทธิภาพเอาผิดถึงแม่ข่าย

โดย THE STANDARD TEAM
21.10.2024
  • LOADING...
จุลพันธ์

วันนี้ (21 ตุลาคม) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา น.ต. วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ร.น. สมาชิกวุฒิสภา ตั้งกระทู้ถามด้วยวาจา เรื่องการแก้ปัญหาขายตรงแบบแชร์ลูกโซ่ที่กระทบกับเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ตอบกระทู้

 

น.ต. วุฒิพงศ์ กล่าวว่า แชร์ลูกโซ่มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อระบบเศรษฐกิจของไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว ตั้งแต่แชร์แม่ชม้อยที่มีประชาชนล่มจม ล้มละลาย หมดเนื้อหมดตัว

 

นอกจากนี้ยังมีแชร์ลูกโซ่อีกหลายรูปแบบที่เกิดขึ้นในอดีต สุดท้ายเจ้าของแชร์ก็ติดคุก และล่าสุดเป็นคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ซึ่งพฤติกรรมไม่แตกต่างไปจากแชร์สมัยก่อน แต่เนื่องจากกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องแชร์ลูกโซ่ที่ออกมาเมื่อ 20 ปีที่แล้วไม่ทันยุคทันสมัย ปัจจุบันมีการปรับแก้ให้มีสินค้าขายด้วย แต่ถึงเวลาก็ไม่มีสินค้า หรือเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือคนขายไม่ได้ตั้งใจจะขาย

 

“ประเทศไทยเป็นห่วงโซ่ในความโลภ โกรธ และหลง ความโลภทำให้คนเป็นเหยื่อ ผมก็เคยอยากรวย อยากมีเงิน โดยไม่ต้องทำงาน ทำงานน้อยๆ ได้เงินเยอะๆ มีใครบ้างที่ไม่อยาก คนไทยส่วนใหญ่อยาก เมื่อมีความอยาก พอมีคนมาเล่า อย่างพิธีกรดัง, เซเลบ, นักร้องดัง, คนที่น่าเชื่อถือในวงการทั้งหลาย คนเหล่านี้สามารถล่อลวงคนได้เป็นร้อยเป็นหมื่น ซึ่งปัจจุบันเท่าที่คาดการณ์ไว้คือไม่ต่ำกว่าหมื่น อีกทั้งแชร์ลูกโซ่มีพฤติกรรมใช้สื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นการเพิ่มปัญหาทวีคูณ และด้วยอิทธิพลออนไลน์สามารถทำให้เติบโตอย่างรวดเร็ว” น.ต. วุฒิพงศ์ กล่าว

 

น.ต. วุฒิพงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า แชร์ลูกโซ่ในคดีล่าสุดยังมีเรื่องเงินนอกระบบหรือเงินคริปโตเคอร์เรนซีที่เป็นอันตรายอย่างใหญ่ยิ่งในสังคมไทย เพราะใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที จากข่าวในคดีดิไอคอนกรุ๊ปมีการโอนออกไปถึง 8 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้ประชาชนก็ตั้งข้อสงสัยกันว่า เรื่องนี้ผู้กระทำจะผิดในเรื่องอะไร อาจจะไม่ผิดในข้อหาแชร์ลูกโซ่ แต่อาจจะผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ดังนั้นสิ่งที่ดำเนินการอยู่ผิดในเรื่องใดกันแน่ ถ้ากฎหมายไม่มี ขอแนะนำให้รัฐบาลออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เลยดีหรือไม่ เพราะเรื่องนี้มีความจำเป็นเร่งด่วน หรือไม่ก็แก้ไขกฎหมาย

 

ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวมีคนร้องเรียนไปตั้งแต่ปี 2562 แต่ก็หายเงียบไป ไม่รู้ว่าเทวดาที่ไหนยับยั้งไว้ ส่วนตัวมองว่าเทวดานี้ก็สำคัญ ไม่เช่นนั้นทำไม่ได้ถึงขนาดนี้ โดยเฉพาะคนที่เป็นบอสหลายคน มีการแจ้งมาจากกรมสรรพากรว่า ไม่ได้เสียภาษีอย่างที่ควรจะเป็น จึงอยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังติดตามด้านภาษีด้วย

 

“ผมเห็นเขารวย อิจฉาเหมือนกัน แต่พอไปดูแล้วไม่ใช่เรื่องจริง แต่ไม่มีใครเอ๊ะเหมือนผม ไปเอ๊ะมากๆ ก็หาว่าเราไปกีดกันเขา ขนาดพระบางรูปยังไปเทศนาเชิงนิยมชมชื่นไปด้วย แต่เรื่องนี้เป็นกิจของสงฆ์หรือไม่ เรื่องนี้เป็นกิจของรัฐบาล เป็นกิจของ สส. และ สว. ทุกคนที่ต้องตามติดเรื่องเหล่านี้ว่าเกิดขึ้นแล้วและจะเกิดขึ้นต่อไปถ้าเราไม่แก้ไขตั้งแต่ต้นน้ำ จึงอยากให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังช่วยรับปากว่า เรื่องนี้จะไม่เป็นมวยล้มต้มคนดู ทำแล้วทำจริงจัง แล้วจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป” น.ต. วุฒิพงศ์ กล่าว

 

ถึงเวลาแก้กฎหมายหลายฉบับเอาผิดถึงแม่ข่าย

ขณะที่จุลพันธ์ตอบกระทู้ว่า มีการอายัดทรัพย์ไปแล้วจำนวนมาก รวมถึงทรัพย์สินจำนวนหนึ่งที่ประชาชนสงสัยว่าทั้งหมดอยู่ในข่ายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังดำเนินการต่อไป คือ สิ่งที่นำมาแสดงในวาระ ในกรรมต่างๆ ว่าถือครองอยู่ ซึ่งอยู่ระหว่างหน่วยงานติดตามนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

 

ส่วนเรื่องคดีความเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลายฉบับ ซึ่งกฎหมายหลายฉบับถึงวาระที่ต้องทบทวน กระทรวงการคลังไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้หารือเบื้องต้นว่าจะแก้ในหลายประเด็น โดยอยู่ระหว่างการยกร่าง ใช้เวลาไม่นาน 2-3 เดือนน่าจะแล้วเสร็จ โดยตั้งโจทย์แก้กฎหมายกำหนดให้หน่วยงานเอาผิดไปถึงแม่ข่ายได้ ซึ่งปัจจุบันมีช่องโหว่ ไม่สามารถเอาผิดในระดับแม่ข่าย ระดับกลาง และระดับล่างได้ รวมถึงการเพิ่มโทษที่บางจุดอาจจะไม่ได้สัดส่วนกับความเสียหาย ที่กรณีนี้สูงถึง 1.6 พันล้านบาทไปแล้ว รวมถึงเรื่องอายุความ ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวโทษหลบหนี ให้อายุความสามารถสะดุดหยุดลงได้ ส่วนการฟ้องล้มละลาย จะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้เสียหายเข้ามาฟ้องล้มละลายได้ และการปรับให้ทันกับสถานการณ์และกลโกงแบบใหม่ จึงต้องมีกฎหมายที่ยืดหยุ่น

 

จุลพันธ์ ชี้แจงด้วยว่า เมื่อภาครัฐจะดำเนินการทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินการคลัง โดยมากจะเลือกช่องทางใน พ.ร.ก. อยู่แล้ว เพราะกรณีนี้เข้ากรอบของการออกเป็น พ.ร.ก. ค่อนข้างมาก เป็นการรักษาความปลอดภัย ความมั่นคงของประเทศ มีความจำเป็นต้องทำอย่างเร่งด่วน ซึ่งในความคิดของกระทรวงการคลังก็จะออกเป็น พ.ร.ก. ส่วนเรื่องภาษียืนยันว่าตรวจสอบย้อนหลัง 18 คนเรียบร้อย โดยบางรายไม่ได้ยื่นแบบภาษีระหว่าง 3-5 ปี ซึ่งยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด จะต้องตรวจสอบว่าหลบเลี่ยงอย่างไร ขอไม่ต้องกังวล

 

“ยืนยันว่าไม่มีมวยล้ม เราจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ส่วนเรื่องเทวดา ผมเห็นความตั้งใจของนายกฯ ว่าเรามีความจริงจัง เชื่อว่าเมื่อถึงมือตำรวจแล้ว เมื่อไปตรวจคลิปเสียงก็จะขยายผลดำเนินการต่อไปให้ถึงที่สุด ยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการให้ถึงที่สุด นำผู้กระทำความผิดไปดำเนินการให้ครบถ้วน” จุลพันธ์กล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising