หลังมีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง กรณีที่บริษัทผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ชื่อดังอย่างเจเอสแอล ได้เตรียมการจะโยกย้ายรายการเกมโชว์กึ่งวาไรตี้ยอดนิยม ซึ่งเคยออกอากาศทางช่อง 7 อย่าง ‘กิ๊กดู๋ สงครามเพลง เงินล้าน’ ไปออกอากาศที่ช่อง PPTV HD 36 แทนในเร็วๆ นี้
จนกระทั่งล่าสุดมีข่าวตามออกมาอีกว่าช่อง 7 ได้ทำการยกเลิกการออกกากาศรายการดังกล่าวโดยทันที ซึ่งการถูกถอดจากผังรายการครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบให้ผู้ผลิตอย่างเจเอสแอล ต้องเสียหายเป็นจำนวนเงินประมาณ 20 ล้านบาท
ล่าสุด จำนรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี ประธานกรรมการ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ได้แถลงข่าวอย่างเปิดใจถึงเรื่องราวดังกล่าว ในหลากหลายกรณีที่กำลังเป็นกระแสดราม่าอย่างถูกตีตราว่า ‘ทรยศ’ และสาเหตุของการต้องย้ายจากช่อง 7 เพื่อเข้าซบช่องคู่แข่งอย่าง PPTV โดยใจความตอนหนึ่งเธอได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ต้องแยกทางกับช่อง 7 เกิดจากเรื่องของการต้องขายเวลาโฆษณาแข่งกับทางช่อง 7 ซึ่งไม่มีทางสู้ได้ อีกทั้งยังรวมไปถึงการขึ้นค่าเช่าเวลาจากทางสถานี ซึ่งก็ยิ่งทำให้บริษัทต้องแบกรับภาระทางธุรกิจไว้จนยากที่จะประคับประคองต่อไปได้
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจเอสแอลทำหน้าที่ของผู้จัดอย่างสุดความสามารถ พยายามที่จะทำให้ทุกรายการได้รับความนิยม ในเรื่องของธุรกิจก็ไม่เคยบิดพลิ้ว จ่ายค่าเวลามาตลอด ความจริงแล้วเรื่องของความเดือดร้อน ถ้าพวกเราอยู่ในวงการอุตสาหกรรมของโทรทัศน์ก็ต้องรู้ว่ามันไม่ได้สบายเหมือนอย่างเมื่อก่อนแล้ว แม้กระทั่งสถานีก็รับทราบอยู่ เพราะว่ารายได้จากสถานีก็ตกต่ำไปเยอะ นอกจากไม่มีกำไรก็ยังขาดทุนด้วยซ้ำไป
“ถ้าเราอยู่กับสถานีที่เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ค่าโฆษณาแพงที่สุด แต่ทำไมยังต้องคืนเวลา ความจริงแล้วตรงนี้เป็นสถานีที่ต้องตระหนักแล้วว่าผู้จัดได้รับความเดือดร้อนจริงๆ นอกจากจะขอคืนเวลา ยังขอลดค่าเวลาไปด้วย จนมาวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 เจเอสแอลทำหนังสือขอลดค่าเวลา ขอยกเลิกแบงก์การันตี ขอให้พิจารณาจ้างบริษัทผลิตรายการ และไม่ให้ช่องขายโฆษณาแข่งกับผู้จัด อันนี้เป็นหนังสือซึ่งส่งไปจากผู้จัด 5 บริษัทถึงช่อง 7 ไม่ใช่แค่เจเอสแอลบริษัทเดียว”
ส่วนสาเหตุของการเลือกจะย้ายเข้าซบ PPTV ผู้บริหารหญิงแกร่งให้เหตุผลว่า “เราก็แจ้งเขาไปว่าเราลำบากนะ PPTV สนใจไหม เขาก็เสนอทางเลือกมา ข้อที่หนึ่ง คือเช่าเวลาเขา ข้อที่สอง คือทำไทม์แชริ่งกัน และข้อที่สาม คือเรารับผลิตให้เขาไป โดยเขาเป็นผู้ลงทุนและเป็นผู้หาโฆษณา
“พอมาถึงประเด็นในข้อที่สาม ซึ่งทำให้เราหลุดพ้นจากวิกฤตตรงนี้ได้ เพราะเราไม่ต้องไปขายโฆษณาแข่งกับสถานี เราแค่ทำรายการให้ดีที่สุด ให้ได้เรตติ้งดีที่สุด เพราะช่อง PPTV มีเป้าหมายคือการทำยังไงให้สถานีของเขามีเรตติ้งที่ดีขึ้นมาในอันดับของ TOP 10”
ส่วนประเด็นดราม่าอย่างกรณี ‘ทรยศ’ ต่อสถานีโทรทัศน์ที่ให้โอกาสผลิตรายการมาอย่างยาวนานนั้น จำนรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี ได้กล่าวว่า “จริงๆ แล้วเจเอสแอลร่วมงานกับช่อง 7 มาเป็นเวลาถึง 32 ปี อยู่กันมาเป็นคู่ค้า เป็นพาร์ตเนอร์ เป็นผู้จัดฯ เป็นผู้ผลิตกับช่อง 7 โดยเริ่มจากรายการ วิก 07 เมื่อปี 2529 นับจากนั้นก็มีอีกหลายรายการที่เจเอสแอลเป็นผู้จัดของช่อง 7
“สมัยก่อนโมเดลทางธุรกิจคือการเช่าเวลาจากช่อง ส่วนเจเอสแอลก็หาโฆษณา 32 ปีมานี้เสียค่าเวลาจากช่อง 7 มาถ้านับเป็นจำนวนเงินก็ไม่ต่ำกว่า 2-3 พันล้านบาท แต่รายการของเจเอสแอลที่ปรากฏทางช่อง 7 ก็ได้มาเยอะ ฉะนั้นตรงนี้ไม่ได้ถือว่าเจเอสแอลเป็นผู้ ให้หรือช่อง 7 เป็นผู้ให้ แต่ถือว่าต่างคนต่างได้ ต่างคนต่างรับ”
โดยหลังจากนี้ เจเอสแอลมีแผนทางธุรกิจที่จะผลิตรายการบันเทิงป้อนให้กับทุกสถานีที่สนใจ โดยจะไม่ได้ยึดติดอยู่กับสถานีใดสถานีหนึ่ง ซึ่งก็ต้องติดตามดูกันต่อไปว่าก้าวเดินหลังจากนี้ของเจเอสแอล โดยเฉพาะในปี 2562 ที่การแข่งขันของแวดวงโทรทัศน์และสื่อบันเทิง ส่อแววว่าจะดุเดือดมากขึ้นกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์