เงินเฟ้อได้ผลักให้ญี่ปุ่นเดินเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ซึ่งอาจจะช่วยให้ตลาดหุ้นกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง จากการดึงให้ผู้คนที่เน้นการฝากเงินไว้ในธนาคารและได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำต้องมุ่งเข้าสู่ตลาดเพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้น
Hiromi Yamaji ประธานของ JPX Group ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการตลาดหลักทรัพย์ในโตเกียวและโอซาก้า กล่าวว่า เขาคาดว่าชาวญี่ปุ่นจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่จะฝากเงินไว้ในธนาคารคิดเป็นมูลค่ารวมกันถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์ จะมองหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากตลาด เพื่อชดเชยกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยกองทุน ETF อาจเป็นทางเลือกแรกของการเข้ามาลงทุนในหุ้นสำหรับหลายๆ คน
“ชาวญี่ปุ่นสามารถรับรู้ได้ว่าเงินเฟ้อกำลังมา เงินสดเป็นราชาเมื่อเกิดเงินฝืด แต่ถ้าเงินเฟ้อกำลังมาเยือน พวกเขาจะต้องเตรียมรับมือ” Yamaji กล่าว
ก่อนหน้านี้ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากรู้สึกเข็ดหลาบกับตลาดหุ้น หลังจากที่เกิดฟองสบู่แตกเมื่อช่วงประมาณ 3 ทศวรรษก่อน ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกจะฝากเงินไว้ในธนาคาร
Yamaji กล่าวต่อว่า “ชาวญี่ปุ่นไม่ได้แคร์มากนัก แม้ (การฝากเงิน) จะไม่ได้ให้ผลตอบแทนอะไรมากมาย แต่เมื่อเงินเฟ้อเริ่มต้นขึ้น พวกเขาต้องเตรียมตัวป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และมันค่อนข้างชัดเจนว่าการฝากเงินไม่ได้เป็นทางออกที่ดีเพียงพอ”
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ไม่รวมราคาอาหารสดและพลังงาน เพิ่มขึ้นกว่า 4% สูงสุดในรอบเกือบ 42 ปี ขณะเดียวกันหุ้นญี่ปุ่นให้ผลตอบแทนในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบ 33 ปี โดยดัชนี TOPIX เพิ่มขึ้น 14.5% ในปีนี้
อ้างอิง: