JPMorgan สถาบันการเงินชั้นนำของโลก ประเมินว่ากองทุน ‘Bitcoin Spot ETF’ สามารถดึงดูดเงินจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาดคริปโตได้มากถึง 1 ล้านล้านบาท
จากบทวิเคราะห์ของ JPMorgan สถาบันการเงินชั้นนำของโลก ประเมินว่ากองทุน ‘Bitcoin Spot ETF’ ที่เพิ่งออกมาในช่วงสัปดาห์ก่อนนี้ สามารถดึงดูดเงินจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาดคริปโตได้มากถึง 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนก้อนใหม่เข้ามาเลย
ในบทวิเคราะห์กล่าวต่อไปว่า ณ ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ของตลาดคริปโตแล้ว จากระยะที่ทุกคนต่างตั้งข้อสงสัยต่อการอนุมัติของ ก.ล.ต.สหรัฐฯ ไปสู่ระยะการประเมินว่า กองทุน Bitcoin Spot ETF จะสามารถดึงดูดเงินเข้ามาได้เท่าไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เมื่อ Bitcoin กลับคืนสู่จุดสูงสุดในรอบ 21 เดือน มีบริษัทระดับโลกอะไรบ้างที่ Market Cap ตามหลังเหรียญที่ (ยัง) ฆ่าไม่ตายนี้!
- เปิดตัวแค่ 2 วัน กองทุน Bitcoin Spot ETF ของ BlackRock ถือครอง Bitcoin รวมแล้วกว่า 11,439 เหรียญ
ซึ่ง Nikolaos Panigirtzoglou หัวหน้านักวิเคราะห์ของรายงานดังกล่าว อธิบายมุมมองในลักษณะสงสัยต่อมุมมองเชิงบวกของอารมณ์ตลาดโดยรวม (Sentiment) ว่า กองทุน ETF จะสามารถดึงเงินลงทุนก้อนใหม่เข้ามาได้มากมาย
แต่เขากลับมองว่าเงินทุนที่จะเข้ามาในกองทุน Bitcoin Spot ETF จะมาจากเงินลงทุนของผลิตภัณฑ์คริปโตอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดอยู่แล้ว ซึ่งแม้จะไม่ต้องมีเงินลงทุนก้อนใหม่ไหลเข้ามาก็สามารถดึงดูดเงินลงทุนได้มากถึง 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาทอยู่แล้ว
โดยเงินลงทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาทจาก Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) มีโอกาสไหลมาอยู่ในกองทุน Bitcoin Spot ETF ที่เพิ่งอนุมัติเหล่านี้ เป็นผลจากที่นักลงทุนที่ทำกำไรจากการซื้อ GBTC ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และปัจจัยจากค่าธรรมเนียมของ GBTC ที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับกองทุน ETF อื่นๆ หากไม่มีนโยบายการปรับค่าธรรมเนียมลง
นอกจากนี้ JPMorgan ยังเห็นเงินลงทุนจากนักลงทุนรายย่อยกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7 แสนล้านบาทที่ย้ายจากวอลเล็ตส่วนตัวในแพลตฟอร์มต่างๆ มายังกองทุน Bitcoin Spot ETF เช่นกัน
อ้างอิง: