ริชาร์ด บิสเซน นายกเทศมนตรีเกาะเมาวี เปิดเผยว่า ยอดผู้สูญหายจากเหตุไฟป่าครั้งรุนแรงในรัฐฮาวายของสหรัฐอเมริกา ยังคงสูงถึง 850 คน ขณะยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 114 คนด้วยกัน แต่สามารถระบุตัวตนได้เพียงแค่ 27 ร่างเท่านั้น
โดยวานนี้ (21 สิงหาคม) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ พร้อมด้วย จิลล์ ไบเดน สตรีหมายเลข 1 ได้เดินทางไปยังเกาะเมาวีเพื่อเข้าเยี่ยมผู้รอดชีวิตจากไฟป่าที่เผาผลาญพื้นที่ทางตะวันตกของเกาะฮาวายจนราบเป็นหน้ากลอง โดยไบเดนพร้อมด้วยภริยาได้เดินทางไปยังเมืองลาไฮนา อันเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักสุด โดยเขาได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ที่รับมือเหตุฉุกเฉินและรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อสำรวจความเสียหายของเมือง รวมถึงมีการเดินสำรวจที่ภาคพื้นด้วย และภายหลังจากนั้น ไบเดนได้กล่าวไว้อาลัยแก่เหยื่อจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 100 คน นับตั้งแต่ที่ไฟป่าปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม
“ชาวอเมริกันทุกคนอยู่เคียงข้างคุณ ไม่ว่าจะนานเท่าไรก็ตาม” ไบเดนกล่าว “เราโฟกัสกับกระบวนการขั้นต่อไป นั่นคือการสร้างเมืองใหม่ในระยะยาว และเราจะทำสิ่งนี้ร่วมกัน”
ไบรอัน ชาตซ์ (Brian Schatz) วุฒิสมาชิกจากรัฐฮาวาย เผยว่า เมื่ออิงจากข้อมูล ณ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 สิงหาคม) ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของฮาวายได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 85% แล้ว และประชาชนเกือบ 2,000 คนยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ และอีก 10,000 คนต้องอยู่อย่างไร้ระบบโทรคมนาคม ขณะที่น้ำในพื้นที่ทางตะวันตกของเกาะเมาวีไม่สามารถใช้ดื่มกินได้อย่างปลอดภัย
“แม้ภาพที่เห็นตรงหน้าจะดูแย่แล้ว แต่ความเป็นจริงมันเลวร้ายยิ่งกว่า เพราะสิ่งที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า คือความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค คือเด็กหลายพันคนที่ยังไม่รู้ว่าจะไปโรงเรียนในฤดูใบไม้ร่วงนี้ได้อย่างไร คือเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินที่เข้าไปในกองไฟโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง ก่อนที่เพลิงนั้นจะเผาผลาญบ้านของเขาเอง” ชาตซ์กล่าว
ภาพ: Mandel NGAN / AFP
อ้างอิง:
