‘ไบเดน’ ถกที่ปรึกษาลดภาษีนำเข้าสินค้าจีน ตั้งเป้าช่วยบรรเทาผลกระทบเงินเฟ้อ

แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ได้มีนัดหารือกับทีมที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะลดการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยมีขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาตัดสินใจเรื่องนโยบายการค้ากับจีน

รายงานระบุว่า การประชุมที่ทำเนียบขาวจะเป็นการประชุมครั้งล่าสุดในประเด็นการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนของประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าผู้นำสหรัฐฯ รายนี้ตั้งใจที่จะตัดสินใจอย่างไร

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดนกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาทบทวนว่าจะยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าบางส่วนจากเดิมที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของจีนมูลค่ากว่า 3.7 แสนล้านดอลลาร์ในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หรือไม่ โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลไบเดนในการต่อสู้รับมือกับปัญหาเงินเฟ้อในปัจจุบัน

สำหรับภาษีสินค้านำเข้าจากจีนนี้ อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ได้ใช้อำนาจมาตรา 301 ของกฎหมายการค้าปี 2517 เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 หลังการสืบสวนสรุปได้ว่าจีนทำการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาจากบริษัทสหรัฐฯ และบังคับให้บริษัทสหรัฐฯ ทำการถ่ายโอนเทคโนโลยี

ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังมีขึ้นท่ามกลางเสียงสนับสนุนจาก เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ที่ระบุว่า การลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอาจช่วยลดราคาสิ่งของที่ประชาชนต้องซื้อได้

แหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีไบเดนกำลังใช้เวลาพิจารณาทางเลือกและผลกระทบที่มีอย่างรอบด้าน เพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดของชาวอเมริกัน ท่ามกลางคำร้องขอมากกว่า 400 ฉบับจากกลุ่มอุตสาหกรรมและแรงงานที่ต้องการให้สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ รักษาอัตราภาษีศุลกากรของจีนไว้ เพราะประธานาธิบดีไบเดนอาจเผชิญฟันเฟืองบางอย่างหากเขาเลือกลดภาษีจำนวนมาก

ด้าน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันเสาร์ (9 กรกฎาคม) ว่าได้เข้าพบและหารือเกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซียในยูเครนกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวังอี้ เป็นเวลานานกว่า 5 ชั่วโมง ซึ่งบลิงเคนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเป็นพันธมิตรระหว่างจีนกับรัสเซีย

บลิงเคนได้ร่วมแถลงข่าวหลังจากการพูดคุยกับหวังแบบตัวต่อตัวเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว หนึ่งวันหลังจากเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ G20 บนเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ เป็นกังวลต่อสถานะความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซีย และว่าการสนับสนุนรัสเซียในองค์การสหประชาชาติและ ‘ส่งเสริมการโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย’ ทำให้จีนขาดความเป็นกลาง อีกทั้งจุดยืนของจีนในการสนับสนุนรัสเซียยังเด่นชัดมากขึ้น เมื่อประธานาธิบดีสีจิ้นผิงยกหูโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม บลิงเคนปฏิเสธที่จะพูดถึงท่าทางการตอบสนองของหวังอี้ในการพูดคุยเมื่อวันเสาร์ เพียงแต่อธิบายว่าการสนทนานั้น ‘มีประโยชน์ ตรงไปตรงมา และสร้างสรรค์’

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH