ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ที่อยู่ระหว่างการเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ได้พบปะหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ทำเนียบขาววานนี้ (1 พฤษภาคม) โดยถือเป็นการเยือนทำเนียบขาวครั้งแรกของผู้นำฟิลิปปินส์ในรอบ 10 ปี ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างตอกย้ำความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงที่มีต่อกัน พร้อมทั้งแสดงท่าทีเห็นพ้องในการขยายความร่วมมือทางทหารมากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ขัดแย้งและข้อพิพาทในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจากแรงกดดันของจีน
ในระหว่างการหารือไบเดนยังได้ให้คำมั่นกับมาร์กอส จูเนียร์ ว่าสหรัฐฯ จะยังคงเป็น ‘เกราะเหล็ก’ ปกป้องฟิลิปปินส์ ในฐานะพันธมิตรสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงการปกป้องจากกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้
ขณะที่ทั้งสองผู้นำได้ออกแถลงการณ์ร่วมภายหลังการหารือ โดยยกย่อง “แรงผลักดันครั้งประวัติศาสตร์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์” พร้อมทั้งยืนยันความมุ่งมั่นที่จะขยายการมีส่วนร่วมและความร่วมมือระหว่างกันต่อไปในทุกประเด็นที่มีข้อกังวลร่วมกัน
การเยือนสหรัฐฯ ของมาร์กอส จูเนียร์ มีขึ้นท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลมะนิลาในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ที่ย่ำแย่ลงในช่วงยุครัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต
การเยือนครั้งนี้ยังสอดคล้องกับท่าทีของรัฐบาลวอชิงตันที่พยายามตอบโต้การขยายอิทธิพลของจีนในเอเชีย-แปซิฟิก
ขณะที่มาร์กอส จูเนียร์ พยายามที่จะรักษาสมดุลความสัมพันธ์ที่มีต่อสหรัฐฯ และจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ โดยก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคมเขาได้เดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่ง แม้ว่าหลังจากนั้นรัฐบาลจีนจะยังคงเพิ่มการแสดงท่าทีในการอ้างสิทธิเหนือพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ซึ่งสร้างความกังวลมากขึ้นแก่ฟิลิปปินส์
ภาพ: Demetrius Freeman / The Washington Post via Getty Images
อ้างอิง: