‘ไบเดน’ รุดหารือที่ปรึกษาวันนี้ หวังหาทางออกแผนลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เร่งหารือกับทีมที่ปรึกษาเกี่ยวกับการลดภาษีศุลกากรให้กับสินค้านำเข้าจากจีน หวังหาทางออกเกี่ยวกับนโยบายลดภาษี หวังช่วยลดอัตราเงินเฟ้อ

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะหารือเกี่ยวกับการลดภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ สำหรับสินค้าจีนกับสำนักที่ปรึกษาในวันนี้ (8 กรกฎาคม) ตามเวลาสหรัฐฯ โดยปัจจุบันนี้ คณะรัฐบาลของไบเดนอยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างใกล้ชิดเรื่องการค้ากับประเทศจีน

ผู้คนใกล้ชิดที่ไม่ประสงค์ออกนามกล่าวว่า ในการหารือระหว่างไบเดนและที่ปรึกษาที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ยังไม่มีความแน่ชัดปรากฏขึ้นว่าไบเดนตั้งใจจะตัดสินใจในทันทีหรือไม่

ทางด้านทำเนียบขาวไม่ตอบคำถามของ Bloomberg ที่ส่งไปเมื่อวันพฤหัสบดี

ทั้งนี้ ไบเดนกำลังชั่งใจว่าจะยกเลิกการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ที่กำหนดในรัฐบาลสมัย โดนัลด์ ทรัมป์ หรือไม่ ขณะเดียวกัน ไบเดนก็กำลังต้องการเครื่องมือที่ทรงอานุภาพในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดยสมัยที่โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น เขาใช้มาตรา 301 ของพระราชบัญญัติการค้าปี 1974 เพื่อลดอำนาจทางการค้าของจีน โดยเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2018 หลังจากการสอบสวนและได้ข้อสรุปว่าจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาจากบริษัทอเมริกัน และบังคับให้พวกเขาถ่ายโอนเทคโนโลยี

และเมื่อเดือนที่แล้ว เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า การลดภาษีสามารถช่วยลดราคาสินค้า ซึ่งเป็นภาระของผู้บริโภคได้

ซึ่งคล้ายกับมุมมองของ จีนา ไรมอนโด (Gina Raimondo) รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ที่ระบุว่า การยกเลิกภาษีเกี่ยวกับสินค้าในครัวเรือนอาจสมเหตุสมผล แต่การเก็บภาษีศุลกากรสำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กและอะลูมิเนียมจากประเทศจีนก็เป็นเรื่องชอบธรรมมากกว่า เพื่อปกป้องคนงานชาวอเมริกันและความมั่นคงของชาติ

ถึงกระนั้น การยกเลิกภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าอย่างจักรยานและเสื้อผ้าจะไม่ช่วยอเมริกันชนมากนัก เพราะตอนนี้ราคาสินค้าแทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น อาหาร เชื้อเพลิง และที่อยู่อาศัย ปรับสูงขึ้นอย่างมาก

ด้าน Barclays หนึ่งในสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ระบุว่า การยกเลิกภาษีสินค้านำเข้าดังกล่าว จะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ลดลงเพียง 0.3% เท่านั้น เนื่องจากสัดส่วนการนำเข้าสินค้าจากจีนของสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่ต่ำ

อ้างอิง: