ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศมาตรการเพื่อกระตุ้นให้พลเรือนชาวอเมริกันทุกคนไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมาตรการทั้งหมดล้วนดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวอเมริกันสามารถมารับการฉีดวัคซีนได้ง่ายขึ้น ซึ่งมีตั้งแต่การจัดสรรเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้เข้าถึงคนในพื้นที่ จัดเตรียมสถานที่สำหรับการฉีดวัคซีนในพื้นที่ชุมชน รวมถึงการจับมือเป็นพันธมิตรกับภาคเอกชนจัดบริการรับ-ส่งฟรี
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวระบุว่า ไบเดนได้จับมือกับบริษัทให้บริการรถโดยสารไม่ประจำทางผ่านแอปพลิเคชันอย่าง Uber และ Lyft ทำให้ชาวอเมริกันสามารถเรียกรถโดยสารเหล่านี้เพื่อเดินทางไปฉีดวัคซีนตามจุดที่ให้บริการใกล้บ้านโดยไม่ต้องเสียค่าโดยสารแต่อย่างใด
ไบเดนกล่าวระหว่างการประชุมช่วงเช้าว่า บริการรับ-ส่งฟรีในกรณีเดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีนของของ Uber และ Lyft นี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 พฤษภาคม – 4 กรกฎาคมนี้เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ Uber มีนโยบายรับ-ส่งฟรี หรือมอบส่วนลดให้แก่ผู้ที่ต้องการเดินทางไปฉีดวัคซีนในสหรัฐฯ อยู่แล้ว โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่ Lyft เองก็เร่งจัดสรรกองทุนอุดหนุนค่าโดยสารให้แก่ผู้ขับรถโดยสารไม่ประจำทางเพื่อให้ผู้โดยสารของ Lyft สามารถไป-กลับ สถานที่ฉีดวัคซีนได้ฟรี
ขณะเดียวกัน ไบเดนยังได้ประกาศให้มหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วสหรัฐฯ เป็นจุดแจกจ่ายวัคซีนให้กับนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ พร้อมจัดสรรงบประมาณอีกส่วนหนึ่งสำหรับจากจัดทำโครงการรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์เชิญชวน การเดินไปให้คำแนะนำตามบ้าน และการจัดพื้นที่แจกจ่ายวัคซีนแบบชั่วคราวตามสถานที่ทำงานและศาสนสถานในสหรัฐฯ ทำให้ชาวอเมริกันได้รับความสะดวกมากที่สุดในการเดินทางมาฉีดวัคซีน
มาตรการกระตุ้นการฉีดวัคซีนทั้งหมดนี้มีขึ้นหลังจากที่ไบเดนเพิ่งจะตั้งเป้าแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสให้ชาวอเมริกันทั่วประเทศ 70% ภายในวันชาติสหรัฐฯ หรือวันที่ 4 กรกฎาคม จากปัจจุบันที่มีชาวอเมริกันราว 58% ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม เพื่อที่ชาวอเมริกันจะสามารถเฉลิมฉลองวันหยุดสำคัญกับครอบครัว ญาติพี่น้อง และมิตรสหายได้อย่างเต็มที่
ปัจจุบัน ข้อมูลจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐฯ (CDC) พบว่า อัตราการแจกจ่ายวัคซีนในสหรัฐฯ เฉลี่ยอยู่ที่ราว 1.9 ล้านโดสต่อวัน ลดลงจากอัตราสูงสุดที่ 3.2 ล้านโดสต่อวันในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยอุปสรรคสำคัญของการแพร่กระจายวัคซีนในขณะนี้ก็คือ ความหวาดวิตกและความลังเลในการเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งผลสำรวจความเห็นล่าสุดพบว่าราว 1 ใน 5 ของชาวอเมริกัน ยังคงลังเลใจที่จะฉีดวัคซีน เพราะกลัวเรื่องผลข้างเคียงและกังขาในประสิทธิภาพของวัคซีน
FDA สหรัฐฯ เปิดทางใช้วัคซีน Pfizer กับเด็กอายุ 12-15 ปี
แผนกระตุ้นฉีดวัคซีนของไบเดนมีขึ้นในวันเดียวกันกับที่สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA ออกแถลงการณ์ระบุว่า ได้อนุมัติรับรองการใช้วัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัท Pfizer และ BioNTech กับเด็กอายุ 12-15 ปีแล้ว นับเป็นการขยายช่วงอายุของชาวอเมริกันที่จะได้รับวัคซีนให้ครอบคลุมกว้างขวางในทุกกลุ่มประชากรมากขึ้น
ทั้งนี้ ทาง FDA ระบุว่า การอนุมัติมีขึ้นหลังทาง FDA มั่นใจว่า วัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer และ BioNTech มีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลในเด็กอายุ 12-15 ปี โดยก่อนหน้านี้ ทาง FDA ได้อนุมัติการใช้วัคซีนตัวนี้ในกรณีฉุกเฉินสำหรับประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปในสหรัฐอเมริกา ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ส่งผลให้วัคซีน Pfizer-BioNTech กลายเป็นวัคซีนตัวเลขที่ได้รับการอนุมัติการใช้ในกลุ่มเยาวชนในอเมริกา เพื่อให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้ได้กลับไปเรียนหนังสือที่ห้องเรียนได้ตามปกติในภาคการศึกษาใหม่ที่จะเริ่มต้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
FDA กล่าวว่า นอกจากจะเปิดทางให้คนอายุน้อยได้รับการป้องกันจากไวรัสโควิด-19 แล้ว การอนุมัติดังกล่าวยังทำให้สหรัฐฯ กลับคืนสู่ภาวะปกติได้ใกล้ไปอีกขั้น จนกระทบสามารถยุติการระบาดใหญ่ที่เกิดขึ้นได้ โดยแม้ว่าเด็กส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการรุนแรง หรือไม่แสดงอาการของโรคใดๆ เลย แต่เด็กก็ยังสามารถเป็นตัวแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นได้อยู่ดี
ทีมแพทย์ทำเนียบขาวมั่นใจ ระงับใช้วัคซีน Johnson & Johnson ไม่กระทบแผนฉีดวัคซีนของรัฐ
ดร.แอนโทนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์แห่งทำเนียบขาว ได้ขึ้นกล่าวชี้แจงต่อวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ยืนยันหนักแน่นว่าการตัดสินใจระงับใช้วัคซีน Johnson & Johnson เป็นเรื่องที่สมควร เพราะวัคซีนดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาลิ่มเลือดอุดตัน
พร้อมกันนี้ เฟาซียังใช้โอกาสนี้ยืนยันว่า คำสั่งระงับใช้ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการรณรงค์แจกจ่ายวัคซีนให้กับประชาชนของผู้นำสหรัฐฯ แน่นอน
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
- https://www.aljazeera.com/news/2021/5/11/biden-announces-new-incentives-to-boost-vaccination-rates
- https://edition.cnn.com/2021/05/10/health/pfizer-vaccine-eua-12-15-teens/index.html