วันนี้ (7 กุมภาพันธ์) จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส. ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่โพสต์ข้อความตอบโต้กองทัพที่แจ้งความว่า “ตลกดีที่แจ้งความโดยไม่ได้มาตรวจสอบก่อน” เพราะจริงๆ แล้วควรต้องยืนยันว่าเอกสารที่ตนถืออยู่ปลอมจริงหรือไม่ ถ้ายังไม่ได้เห็น ไม่ได้จับเลย เห็นเพียงภาพแล้วมั่นใจว่าเป็นของปลอม ก็คิดว่าเป็นเรื่องตลกและรีบเกินไป
ส่วนที่มีการอ้างว่าต้นขั้วเดิมมีทั้งหมด 3 ใบยังอยู่ครบนั้น จิรัฏฐ์กล่าวว่าต้อง พิสูจน์ให้ครบรอบด้าน ถ้าไม่นำใบที่ตนถืออยู่ไปจะรู้ได้อย่างไรว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างนั้น ซึ่งไม่ได้ใช้เวลานานเลย ยินดีจะนำไปให้คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ติดต่อไปแล้วว่าจะขอเช็กต้นขั้วเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมกัน แต่กลับมีการรีบไปแจ้งความก่อน ซึ่งก็ดีแล้ว ส่วนตัวอยากให้มีการพิสูจน์โดยหน่วยงานราชการ ไม่ใช่พิสูจน์ด้วยคำพูดของตนเอง
และจนถึงนาทีนี้ก็ยังยืนยันว่าเป็นของจริงแน่นอน ฉีกมาจากเล่มจริง มั่นใจว่ามีต้นขั้วแน่นอน ไม่เช่นนั้นตนคงต้องโดนตำรวจจับข้อหาหนีทหาร โดนตำรวจมาจับถึงบ้านไปแล้วตั้งแต่ปี 2557-2558
ส่วนที่ทหารแถลงว่าสาเหตุที่ต้นขั้วยังอยู่ที่กองทัพครบ จิรัฏฐ์กล่าวว่าไม่ทราบว่านำข้อมูลมาจากไหน แต่ขอยืนยันว่าของตนเป็นของจริง แต่ถ้าเจอชื่อ นวรินทร์ ไม่เจอ จิรัฏฐ์ อาจเป็นอย่างนั้น เพราะเปลี่ยนชื่อตั้งแต่ปี 2552 แล้วช่วงไปผ่อนผันก็ใช้บัตรประชาชนชื่อจิรัฏฐ์ ไม่ใช่นวรินทร์ และได้ยื่นพร้อมใบเปลี่ยนชื่อ ทั้งนี้หากหน่วยงานไม่อัปเดตข้อมูลเองแล้วจะมาโทษตนไม่ได้
ทั้งนี้จะดำเนินการฟ้องกลับหรือไม่ เพราะได้ยืนยันว่าเป็นของแท้ จิรัฏฐ์ขอกลับไปปรึกษาพรรคก้าวไกลกับทนายก่อน ยังไม่มีความคิดที่ต้องฟ้องกลับตอนนี้
ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่ว่าไม่ได้เดินทหารหรือจ่ายเงินให้สัสดีตามที่โซเชียลสงสัย จิรัฏฐ์ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ถ้าเป็นอย่างนั้นอยู่ในชั้นตำรวจก็พิสูจน์กัน ความจริงจะได้ปรากฏ เพราะถ้าตนพูดเองก็จะหาว่าโกหกอีกเหมือนที่ผ่านมา จึงให้มีการตรวจสอบดีกว่า
ช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวพยายามให้จิรัฏฐ์ไล่รายละเอียดเหตุการณ์ไทม์ไลน์ เกณฑ์ทหาร จับใบดำ-ใบแดง และการได้มาของใบ สด.43 ให้ชัดเจน แต่จิรัฏฐ์ปฏิเสธ พร้อมระบุว่าพยายามนึกเรื่องเหตุการณ์ 14 ปีที่แล้ว จำได้บ้างไม่ได้บ้าง เล่าผิดเล่าถูกเกรงจะมีปัญหาอีก ขอให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทีเดียว เพราะต้องยืนยันหลักฐานควบคู่ไปกับหน่วยงานราชการด้วย และไม่ได้มีเพียงตนคนเดียว เนื่องจากมีคนเซ็นรับรองความถูกต้องถึง 5 คน เพราะถ้าได้ข้อมูลจากตนคนเดียวเกรงว่าจะมีปัญหา
ส่วนที่ระบุว่า 5 รายชื่อย้ายไปแล้ว จิรัฏฐ์ถือว่าเป็นปกติที่มีการย้ายเข้าย้ายออก และตอนนี้คงเป็นนายพลกันหมดแล้ว
ส่วนที่มีการโพสต์คลิปทหารต่อแถวกด ATM หลาย 10 ใบ เป็นการแสดงให้เห็นว่ายังคงเดินหน้าตรวจสอบกองทัพใช่หรือไม่
จิรัฏฐ์ยืนยันว่าใช่ ไม่ได้ย่อท้อ ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบกองทัพต่อไป เพราะไม่รู้ 44 สส. ก้าวไกล จะโดนเมื่อไร และตั้งใจจะพูดถึงเรื่องเกณฑ์ทหารให้มากขึ้น เพราะเราก็โดนเล่นเรื่องนี้ จึงจะทำเรื่องนี้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องยกเลิกการเกณฑ์ทหารและบังคับเกณฑ์ทหาร
ส่วนการกระทำดังกล่าวจะถือว่าเป็นการแก้เผ็ดเอาคืนกองทัพใช่หรือไม่ จิรัฏฐ์กล่าวว่า สส. คนหนึ่งจะไปแก้เผ็ดกองทัพที่มีมาหลายสิบปีและใหญ่โตขนาดนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว เราก็ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร ยืนยันเป็นเกมการเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งที่ผ่านมาได้ตั้งคำถามไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและกองทัพไปเยอะแยะ จึงต้องรอดูว่าจะมาตอบหรือไม่ แต่เรื่องของตน 2 วันตั้งโต๊ะแถลงข่าวเป็นฉากๆ เลย มีทีมเตรียมข้อมูลไว้พร้อม ดูท่าว่าตนจะเป็นคนพิเศษสำหรับกองทัพมากเกินไป ซึ่งตนได้พูดคุยกับพรรคแล้ว ถ้าทุกอย่างถูกต้องขอให้กระบวนการเดินไป