วันนี้ (28 ธันวาคม) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงความคืบหน้าและรายละเอียดของกระบวนการสืบสวนสอบสวนคดีผับจินหลิงว่า การที่ออกมาแถลงข่าววันนี้เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในการปฏิบัติงานของตำรวจ ผ่านตนในฐานะผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
สำหรับการเริ่มต้นทำคดีจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา ฝ่ายสืบสวนได้แกะรอยจากการข่าวที่ระบุว่าในพื้นที่เกิดเหตุ (ผับจินหลิง) มีการเปิดบ่อนการพนัน จำหน่ายยาเสพติด ในวันที่ปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ได้แบ่งชุดปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบ รวบรวม และควบคุมเป็นหลายกลุ่มงาน เพื่อตามคุมตัวผู้ต้องหาตามจุดต่างๆ ทั้งตามห้อง ด้านในและนอกอาคาร ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
แม้ระหว่างทางที่ดำเนินการในคดีนี้จะพบเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น การคืนรถที่ตรวจยึดได้ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่รายนั้นได้เข้าสู่การสอบของคณะกรรมการสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และดำเนินการเรื่อยมาจนแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตาม คดีนี้ถูกดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่ง พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ทางตนได้ทราบคำสั่งวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
หลังการตั้งคณะกรรมการ สิ่งที่ทำทันทีคือหารือถึงปัญหาการทำคดีที่ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 เจอ จนนำมาซึ่งการแก้ปัญหา เช่น การไม่สามารถตรวจรถยนต์ การเข้าไปในสถานที่ไม่ได้ การตรวจพบอาวุธปืน ยาเสพติด
ในประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดตำรวจเข้าไปตรวจค้นในอาคารวิบวับคาร์วอชและตรวจด้านในรถยนต์ที่ยึดไว้ไม่ได้ เรื่องนี้ทาง บช.น. ได้มีหนังสือคำสั่งให้ พ.ต.อ. สราวุธ คนใหญ่ รองผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบก.สส.บช.น.) เข้าดำเนินการตั้งแต่วันที่บุกจับ และต่อมาวันที่ 4 ธันวาคม ทาง บช.น. มีหนังสือเร่งรัดให้ดำเนินการตรวจสอบในรายละเอียดที่ตกค้าง ทั้งนี้ รายงานที่ได้รับระบุว่าไม่สามารถตรวจรถได้ทุกคัน และไม่มีรหัสเปิดประตูอาคาร ทุกอย่างต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ
พล.ต.ท. ธิติกล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาทาง บช.น. ไม่ได้ละเลยในการพยายามตรวจสอบรถยนต์ เพราะได้ทำหนังสือไปที่กรมการขนส่งทางบกและกรมศุลกากรเพื่อตรวจสอบ ติดตามหาเจ้าของรถยนต์ การนำเข้ารถต่างประเทศ เพื่อให้เจ้าของรถเข้ามารายงาน โดยมีหลักฐานประกอบเป็นภาพวงจรปิดของเจ้าของกับรถยนต์
ต่อมามีคำสั่งจากเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ยึดอายัดทรัพย์สินของกลางทั้งหมดไว้ชั่วคราว ทำให้พนักงานสอบสวนไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวใดๆ ได้เพราะมีระเบียบกฎเกณฑ์
พล.ต.ท. ธิติกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเมื่อวานนี้ (27 ธันวาคม) ของคณะ ป.ป.ส. ทั้งในอาคาร พบอุปกรณ์เสพยาเสพติด เช่น สำลีพันไม้ ถาดไม้ และเกิดข้อสงสัยว่าทำไมเจ้าหน้าที่ชุดแรกไม่มีการจัดเก็บ ปล่อยทิ้งไว้ที่เกิดเหตุ ทำไมพนักงานสอบสวนชุ่ยมากขนาดนั้น
“ในเรื่องนี้ขออธิบายว่าในอาคารมีห้องคาราโอเกะหลายห้อง และเจ้าหน้าที่พบสิ่งของเหล่านี้พร้อมผู้ต้องหาแล้ว ทั้งนี้ ตำรวจจะใช้หลักฐานที่พบพร้อมผู้ต้องหาเป็นสิ่งที่มัดตัวผู้ต้องหาในการดำเนินคดี เพราะหลักฐานกลุ่มนี้จัดเป็นวัตถุพยานใกล้ชิด นอกจากนี้ วันดังกล่าวมีการจัดเก็บหลักฐานจำนวนมากพอเชื่อมโยงกับคดีแล้ว
“ส่วนอาคารลีลาที่ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมไม่ตรวจค้น ส่วนนี้ในรายงานสอบสวนมีการตั้งข้อสงสัยไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน ฉะนั้นสิ่งที่ตรวจวานนี้จึงช่วยยืนยันว่ารายงานการสืบสวนที่มีอยู่ก่อนแล้วถูกต้อง” พล.ต.ท. ธิติกล่าว
พล.ต.ท. ธิติกล่าวต่อไปว่า ในการจะกล่าวหาใคร มีโทษพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต จะกล่าวโทษต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน ส่วนตำรวจก็ทำตามเอกสารทุกอย่าง และอธิบายกระบวนการให้ฟังแล้ว
ส่วนอุปสรรคการตรวจอาวุธในอาคารวิบวับคาร์วอชที่มีการตรวจค้นสองครั้ง ในครั้งแรกวันที่ 26 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเข้าไม่ได้ แต่จากนั้นกลับมาประชุมและยืนยันว่าต้องตรวจ เพราะอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับผับจินหลิง
จากนั้นการตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 1 ธันวาคม ศาลได้ให้เวลาตรวจค้น 1 ชั่วโมง เป็นการตรวจตามกรอบเวลาที่เหมาะสม เพราะอาคารดังกล่าวไม่มีเจ้าของแสดงตน ต้องหาพยานข้างเคียง สรุปแล้ววันแรกที่ค้นเจอยาเสพติดและอาวุธ ทางเจ้าหน้าที่บันทึกภาพเป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.ท. ธิติยืนยันว่า พยานหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้สามารถดำเนินคดีผู้ทำผิดได้อย่างแน่นอน จากนี้ขอให้ติดตามผลการสั่งคดีของอัยการสูงสุดในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนต่อไป โดยทางตำรวจจะสรุปสำนวนคดีทั้งหมดส่งพนักงานอัยการภายในกลางเดือนมกราคม 2566