NFT กิมมิกใหม่ในตลาดของสะสม ดึงเทคโนโลยีช่วยเพิ่มมูลค่า

หนึ่งในปัญหาสุดคลาสสิกในแวดวงของสะสมก็คือ ‘ของปลอม’ ทำให้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Blockchain และ NFT เข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้จากข้อดี คือไม่สามารถทำซ้ำและบันทึกข้อมูลต่างๆ โดยแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ยาก สอดรับกับการคาดการณ์ของ Wealth Report 2022 จัดทำโดย Knight Frank ซึ่งรวบรวมดัชนีการเจริญเติบโตของของสะสมหรูหรา ว่าปีนี้เราจะได้เห็นของสะสมมูลค่าสูงและของหายากที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Blockchain และ NFT ซึ่งก็มีให้เห็นกันบ้างแล้วในตลาดไวน์และเพชร

NFT นับว่าเป็นเรื่องใหม่และมีความผันผวนสูงจนนักลงทุนหลายๆ รายไม่กล้าเสี่ยง สินค้าหรูหราแก้โจทย์นี้ด้วยการให้ผู้ซื้อเป็นเจ้าของได้ทั้งทางกายภาพและในโลกเสมือน อย่างอย่างเช่น Penfolds ของออสเตรเลีย เปิดตัวไวน์ NFT ออกมา 2 ชุด คือ Magill Cellar 3 Cabernet Shiraz รุ่นปี 2021 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งนอกจากยืนยันได้ว่าเป็นไวน์ของแท้เพราะเช็กประวัติและยืนยันความเป็นเจ้าของได้ด้วยระบบ Blockchain แล้ว ยังพ่วงมาด้วยสิทธิพิเศษเช่นการร่วมกิจกรรม Wine Testing ในไร่ที่รัฐเซาท์ออสเตรเลีย และการชิมไวน์แบบเสมือนจริงกับ Wine Maker ทำให้ขายหมดภายใน 12 วินาทีในราคา 4.5 ล้านบาท และอีกส่วนที่ทำให้ขายหมดเร็วเพราะทางแบรนด์แก้โจทย์สำหรับคนที่ยังไม่กล้าใช้เงินสกุลดิจิทัลด้วยการขายผ่านสกุลเงินปกติได้ด้วย มาถึงในเดือนมกราคมก็เปิดตัว Penfolds Magill Cellar 3 2018 จำนวน 300 ขวด โดยขายผ่าน BlockBar ตลาดซื้อขายออนไลน์สำหรับไวน์ โดยขายหมดภายในเวลาเพียง 10 ชั่วโมงเท่านั้น

ในขณะที่ตลาดการซื้อขายเพชรก็ใช้ข้อดีของเทคโนโลยีนี้เป็นเครื่องมือในการพิสูจน์ความถูกต้องและการเป็นเจ้าของ รวมถึงความโปร่งใสและการตรวจสอบย้อนกลับไปถึงห่วงโซ่อุปทานเพชรว่ามาอย่างถูกต้องตามหลักมนุษยธรรมหรือไม่ เพราะอย่างที่รู้กันว่าปัญหา Blood Diamond หรือเพชรสีเลือด ซึ่งหมายถึงเพชรที่มาจากพื้นที่ความขัดแย้งและใช้แรงงานทาส เป็นตราบาปในวงการค้าเพชรจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้การซื้อขายแลกเปลี่ยนในรูปแบบโทเคนยังแก้ปัญหาเพชรราคาตกลง 20-30% จากการหักค่าการจัดการและการตลาดเมื่อนำมาขายหน้าร้าน มีบริษัทสตาร์ทอัพในชื่อ Icecap สร้างแพลตฟอร์มซื้อขายเพชรเกรดเพื่อการลงทุนในรูปแบบ NFT โดยผู้เป็นเจ้าของสามารถซื้อขาย NFT ผ่านทางออนไลน์ หรือจะแลกเปลี่ยนออกมาเป็นเพชรจริงๆ เพื่อสวมใส่ก็ได้ และจะนำกลับไป หรือจะ Retoken เพื่อขายต่ออีกครั้งก็ได้

รายละเอียดทั้งหมดจะถูกบันทึกลงบน Blockchain ส่วนสถาบันการประมูลยักษ์ใหญ่อย่าง Sotheby’s ก็เปิดการประมูลเพชรในธีม Magnificent Jewels Part Two เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยเปิดตัวเครื่องเพชรที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพ Café Terrace at Night ของ Vincent van Gogh พ่วงด้วย NFT ที่สร้างสรรค์โดย Kröller-Müller Museum ประเทศเนเธอร์แลนด์ นับเป็นการประมูลเพชรพ่วงด้วย NFT เป็นครั้งแรกของสถาบันนี้ และต่อยอดด้วยการประมูล Dazzling Autumn เครื่องเพชรที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพ Wheat Field with Reaper and Sun

นอกจากนี้ยังมีแบรนด์เครื่องประดับอย่าง L’Dezen ที่เพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ ด้วยการสร้างต่างหูทั้งของจริงและ NFT โดยผู้ที่ชนะการประมูลนอกจากจะได้รับต่างหูไปใส่แล้ว ทางผู้จำหน่ายยังจะนำต่างหู NFT เข้าไปใส่ในรูปโปรไฟล์ NFT ให้กับเจ้าของได้อีกด้วย ทั้งหมดนับเป็นก้าวใหม่ของตลาดของสะสมที่ผนวกเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่ออนาคต

Café Terrace at Night’s Earrings ราคาประมาณ 1.1 ล้านบาท

ต่างหูเพชรที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพ Café Terrace at Night โดย Vincent van Gogh เมื่อปี 1888 จากความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ Kröller-Müller เนเธอร์แลนด์ ซึ่งจัดแสดงภาพวาด โดยผู้ประมูลจะได้รับ NFT วิดีโอเบื้องหลังการสร้างสรรค์เครื่องประดับชิ้นนี้และใบรับรอง ซึ่งนี่เป็นเครื่องประดับของ Sotheby’s ชิ้นแรกที่มาพร้อมกับ NFT ได้รับการประมูลไปในราคา 1.1 ล้านบาท

Dazzling Autumn ราคาประมาณ 8.41 แสนบาท

ต่างหูเพชรแฟนซีบนตัวเรือนสีทองรูปรวงข้าว ได้แรงบันดาลใจมาจากผลงาน Wheat Field with Reaper and Sun ของ Vincent van Gogh มาพร้อมกับ NFT จาก Kröller-Müller Museum และใบรับรอง ได้รับการประมูลไปในราคา 8.41 แสนบาท ต่อยอดความสำเร็จจากการประมูลเพชรพร้อม NFT ในเดือนตุลาคมปีที่แล้วของสถาบัน Sotheby’s อีกทั้งยังเปิดตลาดคนรุ่นใหม่ เพราะจากสถิติพบว่าคนรุ่นมิลเลนเนียลอายุน้อยกว่า 40 ปี สนใจประมูลเครื่องประดับและนาฬิกามากขึ้นกว่า 260% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

‘Limitless’ Earrings ราคาประมาณ 2.88 แสนบาท

ต่างหูทองคำ 18K ของแบรนด์ L’Dezen ออกแบบโดยดีไซเนอร์ Payal Shah ที่เคยออกแบบเครื่องประดับให้กับคนดังอย่าง Rihanna และ Michelle Obama มาแล้ว โดยมีทั้งที่เป็น NFT และของจริง เปิดให้ประมูลภายใน 24 ชั่วโมง ผู้ชนะการประมูลจะได้รับบริการพิเศษในการใส่เครื่องประดับเสมือนลงบนรูปโปรไฟล์ NFT อื่นๆ

Grand Canaria ยังคงเปิดประมูล

เพชรสีเหลืองเข้ม 43.2 กะรัต เปิดให้ประมูลผ่านทาง OpenSea จาก Icecap แพลตฟอร์มซื้อขายเพชร NFT ที่สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาราคาเพชรตกลงราว 20-30% เมื่อต้องขายต่อผ่านร้านเพชร โดยผู้เป็นเจ้าของสามารถซื้อขาย NFT ผ่านทางออนไลน์ หรือจะแลกเปลี่ยนออกมาเป็นเพชรจริงๆ เพื่อสวมใส่ก็ได้ และจะนำกลับไป หรือจะ Retoken เพื่อขายต่ออีกครั้งก็ได้ โดยรายละเอียดทั้งหมดจะถูกบันทึกลงบน Blockchain

ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา

อ้างอิง: