‘พาวเวลล์’ เตือน สงครามรัสเซียทำเงินเฟ้อวิกฤตหนัก เหตุปัญหาขัดแย้งดันราคาพลังงานพุ่ง

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกโรงเตือนทุกฝ่ายให้เตรียมพร้อมรับมือผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้สถานการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

กระนั้น พาวเวลล์ก็ให้คำมั่นว่า Fed พร้อมทำทุกอย่างเพื่อที่จะชะลอตัวเลขเงินเฟ้อ นับเป็นการตอกย้ำความท้าทายของ Fed ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ต้องมากพอที่จะยับยั้งตัวเลขเงินเฟ้อ แต่ต้องไม่มากเกินไปจนทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนกลับมาฉุดรั้งให้ตลาดวอลล์สตรีทปิดปรับตัวในแดนลบอีกครั้งเมื่อวานนี้ (3 มีนาคม) หลังจากที่หนึ่งวันก่อนหน้านี้ตลาดเคลื่อนไหวในแดนบวก หลัง เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed เผยว่าจะสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ระหว่างการประชุมในวันที่ 15-16 มีนาคม ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนที่ว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่านี้

ทั้งนี้ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลง 96.69 จุด หรือ 0.29 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 33,794.66 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ลดลง 23.05 จุด หรือ 0.53 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 4,363.49 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 214.07 จุด หรือ 1.56 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 13,537.94 จุด

โดยขณะนี้ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซียผ่านมาครบ 1 สัปดาห์แล้ว ท่ามกลางรายงานว่ามีทหารรัสเซียและพลเรือนยูเครนเสียชีวิตไปแล้วหลายร้อยคน และรัสเซียถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลกมากขึ้นผ่านมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงกว่าครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์

ส่วนราคาน้ำมันมีแรงเทขายท่ามกลางความหวังสหรัฐฯ และอิหร่านจะสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์เร็วๆ นี้ โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 2.93 ดอลลาร์ ปิดที่ 107.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 2.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 110.46 ดอลลาร์

โดยช่วงต้นสัปดาห์ราคาน้ำมันขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตรัสเซียยกพลบุกยูเครน เนื่องด้วยรัสเซียเป็นชาติผู้ส่งออกน้ำมันดิบราว 4-5 ล้านบาร์เรลต่อวัน มากสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากซาอุดีอาระเบีย

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในตลาดโลกแกว่งตัวลงและปิดลบแรง หลังสื่อมวลชนรายงานว่าสหรัฐฯ และอิหร่านใกล้บรรลุข้อตกลงอย่างสมบูรณ์ ในการรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ซึ่งจะช่วยนำพาอุปทานน้ำมันมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันกลับสู่ตลาด

ราคาของแร่พาลาเดียมก็ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 เดือน ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (3 มีนาคม) เช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องการขาดแคลนอุปทานหลังจากการคว่ำบาตรอย่างรุนแรงต่อผู้ผลิตชั้นนำของรัสเซีย ในขณะที่วิกฤตยูเครนและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ความต้องการทองคำปลอดภัยเพิ่มขึ้น เนื่องจากความขัดแย้งกระตุ้นให้นักลงทุนถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (3 มีนาคม) ปิดบวก โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 13.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,935.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH