×

‘พาวเวลล์’ เสียงอ่อน ระบุ Soft Landing อาจอยู่นอกเหนือการควบคุมของธนาคารกลาง

25.05.2022
  • LOADING...
เจอโรม พาวเวลล์

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่เพิ่งชนะการยืนยันจากวุฒิสภาเป็นสมัยที่ 2 เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (24 พฤษภาคม) เปิดใจยอมรับเป็นครั้งแรกว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูง และความอ่อนแอทางเศรษฐกิจในต่างประเทศอาจขัดขวางความพยายามของ Fed ในการที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอเมริกา

 

ทั้งนี้ หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พาวเวลล์ได้แสดงให้เห็นความพยายามอย่างหนักของ Fed ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อประคองให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต่อให้อยู่ในช่วงขาลงอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ ให้เป็นการลงที่นุ่มนวล (Soft Landing) ซึ่งภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว Fed จะจัดการปรับอัตราดอกเบี้ยให้กระชับพอที่จะทำให้เศรษฐกิจลดความร้อนแรงลง ขณะเดียวกันก็เพียงพอที่จะคุมอัตราเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ

 

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับรายการ Marketplace ของทาง American Public Media พาวเวลล์ยอมรับว่าการสร้างสมดุลที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักต่างกังขาว่า Fed จะทำได้สำเร็จหรือไม่ อาจถูกกระทบกระเทือนจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในยุโรปและจีน

 

พาวเวลล์กล่าวอย่างชัดเจนว่า คำถามที่ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะแลนดิ้งได้อย่างนุ่มนวลหรือไม่ จริงๆ แล้วน่าจะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่อาจคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นสงครามในยูเครน ปัญหาขัดแย้งทางการเมืองในภูมิภาคต่างๆ และสถานการณ์เหนือความคาดหมายอย่างโรคระบาด กลายเป็นปัจจัยที่มีบทบาทและทรงอิทธิพลต่อเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้และปีหน้า

 

นักวิเคราะห์มองว่าท่าทีของพาวเวลล์ล่าสุดแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในการหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยของ Fed ที่น้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับคำพูดและท่าทีของพาวเวลล์ก่อนหน้า โดยสัปดาห์ที่แล้วพาวเวลล์เพิ่งจะกล่าวว่า สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่ดีที่จะสามารถลงจอดได้อย่างนุ่มนวล

 

ทั้งนี้ ในการแสดงความเห็นล่าสุดพาวเวลล์กล่าวว่า การชะลออัตราเงินเฟ้อลงสู่เป้าหมายประจำปีของ Fed 2% ไม่อาจหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะสร้างความเจ็บปวดได้ กระนั้น สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือหาก Fed จัดการเรื่องนี้ล้มเหลว ความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะกลับมาจัดการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ย่อมมีมากขึ้นแทน

 

ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ Marketplace พาวเวลล์ยังแง้มอีกว่า Fed จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% หากอัตราเงินเฟ้อไม่แสดงสัญญาณการผ่อนคลายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพาวเวลล์เพิ่งจะยืนกรานว่า Fed จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% และย้ำว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม

 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อถูกถามย้ำว่า Fed จะมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย 0.75% หรือไม่ พาวเวลล์ก็ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้แทนว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ Fed ได้รับ ณ เวลานั้น

 

ด้าน บิล แอคแมน มหาเศรษฐีผู้จัดการกองทุนเฮจด์ฟันด์ระดับแนวหน้าแสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ะบุว่า อัตราเงินเฟ้อที่ลุกลามจะค่อยๆ หายไปก็ต่อเมื่อธนาคารกลางสหรัฐดำเนินการใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้น หรือรอให้ตลาดหุ้นล่ม ที่จะเร่งให้เศรษฐกิจล่มสลาย และเป็นการทำลายล้างทั้งหมดเพื่อนับหนึ่งใหม่

 

ผู้จัดการกองทุนป้องกันความเสี่ยง Pershing Square รายนี้กล่าวอีกว่า การปรับฐานตลาดในปี 2022 นั้นเกิดจากการที่นักลงทุนไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางจะสามารถจัดการลดอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปีได้ และความวุ่นวายในตลาดจะสิ้นสุดลงได้ก็ต่อเมื่อ Fed ‘ขีดเส้นตายอย่างเด็ดขาด’ เกี่ยวกับราคาที่พุ่งสูงขึ้น

 

แอคแมนย้ำว่า หาก Fed ไม่ทำหน้าที่ ตลาดก็จะทำหน้าที่ของ fed และตลาดก็กำลังจะทำหน้าที่นั้นในตอนนี้ ซึ่งวิธีเดียวที่จะหยุดอัตราเงินเฟ้อที่โหมกระหน่ำในปัจจุบันได้ก็คือการใช้มาตรการในเชิงรุก และนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ยืนเฉยๆ ปล่อยให้เศรษฐกิจล่มสลายไปเอง

 

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นกำลังอยู่ในช่วงขาลงครั้งใหญ่ในปีนี้ เนื่องจากมาตรการควบคุมเงินเฟ้อที่เข้มงวดของ Fed ทำให้นักลงทุนกลัวว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ เพิ่งจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% เป็นครั้งที่สองของปีนี้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นหลังจากนั้นผันผวนหนัก และเคลื่อนไหวในแดนลบมากกว่าแดนบวกจากแรงเทขายของนักลงทุน โดยขณะนี้ดัชนี S&P 500 ลดลงไปแล้วประมาณ 18% นับตั้งแต่ต้นปี 2022

 

อย่างไรก็ตาม แอคแมนเชื่อว่า ณ ขณะนี้บรรดานักลงทุนทั้งหลายต่อให้ไม่ชอบก็จะยกมือสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อของเ Fed กันทั่วหน้า เพื่อให้สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้อยู่หมัด และตลาดจะพุ่งทะยานขึ้นมาแดนบวกเมื่อเหล่านักลงทุนมั่นใจได้ว่าเงินเฟ้อสามารถควบคุมได้แล้ว

 

นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายนี้กล่าวอีกว่า Fed ควรแสดงให้เห็นถึงความจริงจังโดยเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยทันที และให้คำมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่า ‘ยักษ์เงินเฟ้อจะกลับเข้าไปอยู่ในตะเกียง’

 

ก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนมีนาคม 2020 ในช่วงเริ่มต้นของการระบาดของโรคโควิด แอคแมนได้เคยกล่าวเตือนสหรัฐฯ ให้ระวังเรื่องวิกฤตสุขภาพ และขอให้รัฐบาลสหรัฐฯ ปิดประเทศเป็นเวลา 1 เดือน

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X