นับเป็นคอลเล็กชันที่ 3 ที่ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสระดับตำนานอย่าง Jean Paul Gaultier ได้เปิดพื้นที่ให้นักออกแบบคนอื่นมาทำคอลเล็กชันเสื้อผ้ากูตูร์ของแบรนด์ตัวเอง คราวนี้ถึงตาของ Olivier Rousteing ครีเอทีฟไดเรกเตอร์แห่ง Balmain มารับไม้ผลัดต่อจาก Chitose Abe แห่งแบรนด์ Sacai และ Glenn Martens แห่ง Y/Project และ Diesel
หลายครั้งที่ Olivier Rousteing ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงชีวิตเด็กกำพร้าของตัวเองว่า แฟชั่นคือช่องทางที่เขาสามารถจินตนาการอย่างไร้ขอบเขต ซึ่งแน่นอนว่า Jean Paul Gaultier คือหน่ึงในดีไซเนอร์ที่มีอิทธิพลในวงการเป็นอย่างมากในช่วงปี 1990-2000 ซึ่งเป็นช่วงที่ Olivier เติบโตมา
คอลเล็กชันนี้จึงเป็นเหมือนการให้เกียรติแก่ดีไซเนอร์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเขา โดยเราจะเห็นได้ว่า Olivier ดึงเอาทุกอย่างที่เป็นภาพจำของ Jean Paul Gaultier มาไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นชุดบอดี้สูทลายพิมพ์จากคอลเล็กชัน Les Tatouages ปี 1994 ที่มาในช่วงแรกของโชว์ ผสมกับเสื้อลายทางแบบชาวกะลาสีเรือ หรือลาย Breton เลื่องชื่อก็มีขายเป็นไอเท็มหลักของ Balmain ตามมาด้วยชุดเกราะโลหะขึ้นรูปเป็นขวดน้ำหอมที่ขายดีที่สุดของแบรนด์กลิ่น Le Male ซึ่งก็กลายมาเป็นส้นของรองเท้าแพลตฟอร์มด้วย
และที่ขาดไม่ได้เลยคือชุด Cone Bra ที่เราคุ้นเคยจาก Madonna ทั้งแบบสีนู้ดอมชมพูอ่อนจากทัวร์ Blond Ambition และชุดเต้านมที่ราชินีเพลงป๊อปใส่ไปงาน amfAR เมื่อปี 1992 ซึ่ง Kim Kardashian ใส่มาร่วมชมแฟชั่นโชว์ถึงฟรอนต์โรว์ร่วมกับลูกสาว North West และคุณแม่ Kris Jenner
แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นผลงานของ Olivier Rousteing แห่ง Balmain ผู้ที่มีลายเซ็นชัดเจนในเรื่องการทำเสื้อผ้าที่เสริมพลังด้วยซิลูเอตไหล่ตั้งที่ชื่อว่า Pagoda Shoulder ที่ไม่หายไปจากคอลเล็กชันนี้เช่นกัน ซึ่งมาในชุดเดรส เสื้อสูทพินสไตรป์ ปิดด้วยผลงานชุดเดรสหนังขึ้นรูปเทคนิคเดียวกับที่เราเคยเห็นในชุดของ Zendaya ในช่วงโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Dune ในช่วงท้าย โชว์ครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำถึงแรงบันดาลใจในวงการแฟชั่นที่ Jean Paul Gaultier ได้สร้างไว้ให้นักออกแบบรุ่นหลังๆ ที่เติบโตมากับผลงานของเขา และเปิดพื้นที่ให้แบรนด์นี้เป็นสถานที่แห่งความร่วมมือ และความคิดสร้างสรรค์ที่ส่งต่อกันไปมา
ภาพ: Getty Images
