ญี่ปุ่นเตรียมกลับมาใช้งานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกครั้ง เพื่อเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ หลังถูกสั่งปิดเป็นระยะเวลาเกือบ 15 ปี เพราะภัยพิบัติฟุกุชิมะจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปี 2011
วันนี้ (22 ธันวาคม) ญี่ปุ่นเตรียมกลับมาเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คาชิวาซากิ-คาริวะ (Kashiwazaki-Kariwa) ที่ตั้งอยู่จังหวัดนีงาตะ ภูมิภาคชูบุ หรือพื้นที่ทางตะวันตกของเกาะฮนชู ถือเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ถูกสั่งปิด หลังญี่ปุ่นระงับการเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 54 เครื่องทั่วประเทศ เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในปี 2011
คาชิวาซากิ-คาริวะเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (TEPCO) บริษัทผู้ดำเนินงานโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ โดยการกลับมาเปิดใช้งานอีกครั้ง เป็นมาตรการส่วนหนึ่งภายใต้นโยบายความมั่นคงด้านพลังงานของ ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีหญิงญี่ปุ่น ที่สนับสนุนการใช้พลังงานนิวเคลียร์ ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และรับมือกับต้นทุนเชื้อเพลิงพลังงานฟอสซิลที่สูงขึ้น
สำหรับขั้นตอนการเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คาชิวาซากิ-คาริวะ ต้องผ่านการอนุมัติจากสภาจังหวัดนีงาตะในวันนี้ โดย ฮิเดโยะ ฮานาซึมิ ผู้ว่าราชการจังหวัดเตรียมประกาศอนุมัติให้เปิดเครื่องปฏิกรณ์บางส่วนในโรงไฟฟ้าได้เร็วที่สุด คือ ภายในวันที่ 26 ธันวาคม หากแต่เขาก็เน้นย้ำว่า ญี่ปุ่นควรลดการพึ่งพาพลังงานที่สร้างความกังวลให้กับคนในประเทศ
อย่างไรก็ดี มาซาคัตสึ ทาคาตะ โฆษกของ TEPCO กล่าวว่า บริษัทยังคงยึดมั่นป้องกันไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ในอดีตอีก โดยรายงานของ NHK ระบุว่า บริษัทวางแผนเปิดเครื่องปฏิกรณ์หมายเลข 6 และ 7 ภายในวันที่ 20 มกราคม หากผ่านการอนุมัติจากสภาจังหวัด
แม้ TEPCO สัญญากับชุมชนว่า จะอัดฉีดเงิน 1 แสนล้านเยน (ประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท) ให้กับจังหวัดนีงาตะภายในระยะเวลา 10 ปี เพื่อสร้างความไว้วางใจ แต่ผลสำรวจพบว่า ประชาชนในพื้นที่ 60% ไม่เห็นด้วยกับการเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกครั้ง และราว 70% รู้สึกกังวลต่อการดำเนินงานของ TEPCO
อายาโกะ โอกะ ชาวบ้านวัย 52 ปี เล่าผ่าน Reuters ว่า เธอมีภาวะความเครียดจากเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD) จากภัยพิบัตินิวเคลียร์ในฟุกุชิมะ พร้อมกับย้ำว่า ทุกคนได้รับบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ซึ่งไม่สามารถมองข้ามได้เลย
ปัจจุบัน ชาวบ้าน เกษตรกร และนักเคลื่อนไหว วางแผนประท้วงต่อต้านการเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หน้าอาคารสภาจังหวัดนีงาตะในวันนี้ โดยมองว่า นี่คือภัยคุกคามครั้งใหม่ต่อประเทศ และการฟื้นฟูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คือเครื่องเตือนใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ปัจจุบัน ญี่ปุ่นตั้งเป้าใช้พลังงานนิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้า 20% ภายในปี 2040 หลังใช้เงินมหาศาลไปกับนำเข้าพลังงานอย่างก๊าซธรรมชาติและถ่านหินมูลค่า 10.7 ล้านล้านเยน (ประมาณ 2.4 แสนล้านบาท) ท่ามกลางความต้องการพลังงานของประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะปัจจัยอย่างการขยายตัวของศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งต้องใช้พลังงานขับเคลื่อนสูง แม้จำนวนประชากรญี่ปุ่นจะลดลงก็ตาม
ภาพ: Kyodo via REUTERS
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/sustainability/boards-policy-regulation/japan-prepares-restart-worlds-biggest-nuclear-plant-15-years-after-fukushima-2025-12-21/
- https://www.japantimes.co.jp/news/2025/11/20/japan/niigata-governor-to-approve-nuclear-plant-restart/
- https://www.bbc.com/news/articles/cev8j9ylr14o


