วันนี้ (10 กันยายน) BBC สื่อชื่อดังของอังกฤษ รายงานผลการแข่งขันเกมอุ่นเครื่องระหว่างเยอรมนีกับญี่ปุ่น ซึ่งผลปรากฏว่าทัพ ‘ซามูไรบลูส์’ บุกมาถล่มไปได้ 4-1 ที่โฟล์กสวาเกนอารีนา เมืองโวล์ฟสบวร์ก ประเทศเยอรมนี
เยอรมนีเคยพลาดท่าพ่ายต่อญี่ปุ่นในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ เมื่อปลายปีก่อน ด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้ชัยชนะนัดนี้กลายเป็นชัยชนะของญี่ปุ่นที่มีเหนือเยอรมนี 2 นัดติด และทำให้ ฮันซี ฟลิก หัวหน้าโค้ชทัพ ‘อินทรีเหล็ก’ ต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก
แมตช์นี้ จุนยะ อิโตะ เปิดสกอร์แรกให้ญี่ปุ่นขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 11 แต่ ลีรอย ซาเน กองหน้าของบาเยิร์น มิวนิก กลับตีกลับให้เจ้าบ้านในนาทีที่ 19
อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นกลับมาขึ้นนำอีกครั้งในอีก 3 นาทีต่อมา จาก อายาเสะ อุเอดะ และทำให้จบครึ่งแรกยอดทีมจากเอเชียนำก่อน 2-1
ครึ่งหลังญี่ปุ่นมาได้อีก 2 ประตูตอกย้ำชัยชนะในช่วงท้ายเกม จาก ทาคุมะ อาซาโนะ และ อาโอะ ทานากะ ทำให้ญี่ปุ่นเอาชนะเกมนี้ไปได้ด้วยสกอร์ 4-1
นี่นับเป็นความพ่ายแพ้ 4 จาก 5 นัดหลังของเยอรมนี ซึ่งนับเป็นฟอร์มที่ย่ำแย่ที่สุดของทัพ ‘อินทรีเหล็ก’ นับตั้งแต่พ่ายสเปน 0-6 ในศึกยูฟ่าเนชันส์ลีก 2020
นอกจากนี้ฟลิกยังคุมเยอรมนีเก็บชัยชนะได้เพียง 12 จาก 25 เกมที่เข้ามาคุมทีม นับตั้งแต่เข้ามาแทนที่ โยอาคิม เลิฟ ในเดือนสิงหาคม 2021
อย่างไรก็ตาม ฟลิกยังกล่าวว่า เขายังคงเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าโค้ชของเยอรมนีต่อไป โดยกล่าวว่า “นี่คือสิ่งที่อธิบายว่าฟุตบอลอาชีพเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง และผมก็ไม่ได้เห็นสิ่งนั้นเลย”
ขณะที่ผู้เล่นอีกหลายๆ คนในทีมก็แสดงความผิดหวังอย่างชัดเจน อาทิ อิลคาย กุนโดกัน กล่าวว่า “เรายังไม่ดีพอในตอนนี้ มันเป็นวันที่น่าขมขื่นอย่างยิ่ง เราทุกคนต้องถามคำถามเกี่ยวกับตัวเราเอง”
ด้าน โจชัว คิมมิช กองกลางจากบาเยิร์น มิวนิก กล่าวว่า “ประเด็นสำคัญคือมันเป็นความพ่ายแพ้ที่เราสมควรได้รับ เราขึ้นเกมไปข้างหน้าไม่ได้เลยในครึ่งหลัง เราไม่ได้เล่นเกมที่ดีเลยจริงๆ นับตั้งแต่ฟุตบอลโลก สิ่งนี้จะต้องทำให้เราหยุดคิดแล้วต้องตั้งคำถามกับคุณภาพของเรา”
ขณะที่ รูดี โฟลเลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลของทีมชาติเยอรมนี มองความพ่ายแพ้ในนัดนี้ว่าเป็น ‘ความน่าอับอาย’ เลยทีเดียว
อ้างอิง:
