วันนี้ (15 ตุลาคม) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพพร เรืองวานิช ผู้อำนวยการหลักสูตรควบตรี-โท ทางการบัญชีและธุรกิจ และรักษาการแทนผู้อำนวยการโครงการปริญญาตรีบริหารธุรกิจ หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ได้ถอดบทเรียนความสำเร็จของปรากฏการณ์เทศกาลเจนนี่ ของนักร้องสาว เจนนี่-รัชนก สุวรรณเกตุ (เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น) ที่สามารถสร้างยอดขายมหาศาลจากการไลฟ์สดขายสินค้าในช่วงเวลาสั้น ๆ
ผศ. ดร.นพพร เปิดเผยว่า ความสำเร็จของเจนนี่มาจากกลยุทธ์ Shoppertainment ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยที่ชื่นชอบความสนุกสนาน ความบันเทิง และการมีส่วนร่วมกับผู้ขายโดยตรง ต่างจากพฤติกรรมชาวตะวันตกที่นิยมซื้อขายผ่านอีคอมเมิร์ซโดยไม่ต้องปฏิสัมพันธ์
พลังคอลแลบคนดังและ FOMO ดึงดูดผู้ชมมหาศาล
ปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมให้เกิดปรากฏการณ์นี้ คือ พลังของการคอลแลบ (Collaborate) ระหว่างเจนนี่กับดาราและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เช่น อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, กระแต-อาร์สยาม, และหนุ่ม-กรรชัย ซึ่งช่วยเสริมแรงบันเทิงแบบทวีคูณ และรวมฐานแฟนคลับให้มาอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน จนส่งผลให้อัลกอริทึมของ TikTok ยิ่งเพิ่มการมองเห็นและการรับรู้ต่อผู้บริโภคมากขึ้น
นอกจากนี้ เจนนี่ยังใช้กลยุทธ์การตั้งราคาที่ถูกที่สุดในไลฟ์ และกำหนดกรอบเวลาที่จำกัดเพียง 10 นาทีต่อแบรนด์ เพื่อสร้างสภาวะ FOMO (Fear of Missing Out) หรือความรู้สึกกลัวตกกระแสให้แก่ลูกค้า แม้จะยังไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าก็ตาม
“เจนนี่ใช้กลยุทธ์ในการดึงผู้ชมให้ยังคงอยู่ในไลฟ์ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการสลับระหว่างดาราที่มีชื่อเสียง กับเจ้าของแบรนด์ที่อาจจะไม่มีชื่อเสียงมากนัก และจะแจ้งผู้ชมว่ามีดาราหรืออินฟลูฯ ที่ทุกคนรอคอยอยู่ถัดไปจากนี้ กลยุทธ์เหล่านี้ถือเป็นการเก็บคนดูให้อยู่กับไลฟ์ตัวเองได้นานขึ้น” ผศ. ดร.นพพร กล่าว
นักวิชาการธรรมศาสตร์มองว่า เจนนี่เปรียบเสมือนผู้ประกอบการค้าปลีกที่สามารถจัดเรียงสินค้าหลากหลายให้น่าสนใจ ไม่ซ้ำซาก ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสสั่งซื้อสินค้ามากกว่าหนึ่งประเภทต่อการไลฟ์หนึ่งครั้ง และมองว่าเป้าหมายยอดขาย 1,000 ล้านบาท ภายในเดือนนี้มีความเป็นไปได้สูง
ส่วนกรณีที่เจนนี่ได้ขยายความฮอตจากออนไลน์สู่กิจกรรมออฟไลน์ ด้วยการประกาศจัดงาน เฟสติวัล Live Market By ยิวเจน 5 รอบ 5 จังหวัด โดยจะเริ่มต้นในเดือนมกราคม 2569 และมีการเปิดให้เช่าบูธสินค้าในราคาสูงถึง 1 ล้านบาทต่อบูธ ถือเป็นการต่อยอดกลยุทธ์เพิ่มช่องทางการนำเสนอสินค้า และด้วยฐานผู้ชมหลักแสนต่อการไลฟ์ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่งานเฟสติวัลนี้จะมีผู้เข้าร่วมมหาศาลเพื่อซื้อสินค้าและพบปะดาราอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ผศ. ดร.นพพร ตั้งข้อสังเกตว่า หากเจนนี่ยังใช้กลยุทธ์เดิม การตั้งเป้าหมายยอดขาย 10,000 ล้านบาท ภายในหนึ่งปี และการรักษาปรากฏการณ์ฟีเวอร์ให้คงอยู่ต่อไปอีก 3–5 ปี อาจยังคงเป็นความท้าทายที่น่าติดตามต่อไป