จากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และชาติพันธมิตร (OPEC+) มีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้
เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มองว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่มีประโยชน์และไม่ฉลาดต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากราคาน้ำมันแพง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เจเน็ต เยลเลน เผยแผนกำหนดเพดาน ‘ราคาน้ำมันรัสเซีย’ ได้ผล หลังรัสเซียยอมลดราคาขายล็อตใหญ่ให้ ‘จีน-อินเดีย’
- เจเน็ต เยลเลน ไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว พร้อมเชื่อว่ามีวิธีคุมเงินเฟ้อโดยที่ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง
- เจเน็ต เยลเลน ยืดอกยอมรับ คาดการณ์เงินเฟ้อผิดพลาด แต่เชื่อว่าได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
“ฉันคิดว่าการตัดสินใจของ OPEC ไม่มีประโยชน์และไม่ฉลาดเอาเสียเลย ผลกระทบจากเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนว่าจะลงเอยอย่างไร แต่สิ่งที่แน่นอนในมุมของฉันคือ มันไม่เหมาะสมต่อสถานการณ์ที่เราเผชิญอยู่ เราต่างกังวลอย่างมากต่อประเทศกำลังพัฒนาและปัญหาที่พวกเขาเผชิญ”
การเปิดเผยของเยลเลนเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการประชุมประจำปีของ IMF และ World Bank ที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์หน้า ซึ่งประเด็นหลักที่จะมีการหารือกันเกี่ยวข้องกับเรื่องของเงินเฟ้อสูงและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ผลกระทบจากการใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวอย่างรวดเร็วของธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเงินจากสงครามในยูเครน
“หลายประเทศได้ส่งความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจให้กับยูเครน แต่ยังไม่เพียงพอที่จะเยียวยาได้มากนัก การให้ความช่วยเหลือด้านการเงินยังค่อนข้างช้าเกินไป”
ในขณะที่สหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ยูเครนคิดเป็น 8.5 พันล้านดอลลาร์ และอีก 4.5 พันล้านดอลลาร์เพิ่งได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส
นอกจากนี้เยลเลนยังกล่าวอีกว่า สหรัฐฯ กำลังจับตาดูการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้น และยังคิดว่าตลาดยังทำงานได้ค่อนข้างดีและเหมาะสมท่ามกลางความแตกต่างของพื้นฐาน นโยบาย และสถานการณ์เศรษฐกิจของแต่ละประเทศ
อ้างอิง: