เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ พบปะหารือกับ หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน วานนี้ (27 สิงหาคม) ระหว่างการเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการครั้งแรก
การพบกันของทั้งสอง ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 16 เดือน มีขึ้นที่ชานกรุงปักกิ่ง ท่ามกลางการจับตามองบทบาทของรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในช่วงสุดท้ายก่อนที่เขาจะหมดวาระในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ขณะเดียวกันยังสะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายในความพยายามฟื้นฟูเสถียรภาพความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นประเด็นที่ไบเดนให้ความสำคัญ หลังจากที่ทั้งสองประเทศตกอยู่ในบรรยากาศตึงเครียดตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ซัลลิแวนกล่าวกับหวังก่อนหารือทวิภาคีว่า “ประธานาธิบดีไบเดนแสดงความชัดเจนในบทสนทนาต่อประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ว่าเขามุ่งมั่นที่จะจัดการความสัมพันธ์ที่สำคัญนี้ด้วยความรับผิดชอบ”
และแม้ว่าทำเนียบขาวจะพยายามไม่เชื่อมโยงเรื่องการเยือนจีนของซัลลิแวนกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะมองว่าการเลือกเยือนจีนของที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐฯ ในเวลานี้จะปราศจากวาระทางการเมือง
โดยนักวิเคราะห์มองว่า หากซัลลิแวนใช้โอกาสในการเยือนรอบนี้ และสามารถวางรากฐานสำหรับการประชุมร่วมกันระหว่างไบเดนและสีครั้งสุดท้ายได้ ทริปเยือนจีนของเขาอาจมีความหมายถึงขั้นที่สามารถนำไปสู่จุดสิ้นสุดในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่แข็งกร้าวและเต็มไปด้วยความขัดแย้งต่อจีน
จีนจับตาทิศทางการเมืองสหรัฐฯ
ที่ผ่านมาจีนเองก็ให้ความสำคัญและติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองในสหรัฐฯ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิดล่าสุด จากการที่ไบเดนถอนตัว และเป็น คามาลา แฮร์ริส มารับหน้าที่ผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครตแทน
โดยจีนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมรับมือกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป
กรณีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นั้น มีความชัดเจนว่าเขาจะเดินหน้าขึ้นภาษีสินค้าจีนและขยายสงครามการค้าให้รุนแรงยิ่งขึ้น หากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2
ส่วนแฮร์ริสนั้นยังยากที่จะคาดเดา ว่านโยบายต่อจีนของเธอจะแตกต่างจากไบเดนที่พยายามต่อต้านการขยายอิทธิพลของจีนมากน้อยแค่ไหน โดยเธอและทีมหาเสียงยังไม่เปิดเผยท่าทีหรือแผนนโยบายความสัมพันธ์ต่อจีนออกมามากนัก
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวชี้แจงว่า การเยือนจีนของซัลลิแวนมีจุดประสงค์เพื่อสานต่อการทำงานของรัฐบาลไบเดน มากกว่าจะเป็นการกำหนดทิศทางสำหรับประธานาธิบดีคนต่อไป
จุดยืนสำคัญของจีน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหวังจะใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงต่อซัลลิแวน เกี่ยวกับจุดยืนในเรื่องต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อจีน และหวังว่าสหรัฐฯ จะยอมรับฟัง โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนมองว่า นี่อาจเป็น ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ต่อทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน
ประเด็นที่สำคัญและจีนตีเส้นแบ่งไว้ชัดเจน คือกรณีไต้หวันที่จีนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในดินแดนของตน และจะไม่ทนต่อสัญญาณใดๆ ที่วอชิงตันแสดงออกถึงการสนับสนุนเอกราชของไต้หวัน
นอกจากนี้ยังมีประเด็นการค้า ซึ่งหวังแสดงท่าทีชัดเจนต่อซัลลิแวน โดยมองว่าการเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนนั้น ‘ไม่สมเหตุสมผล’ และเรียกร้องสหรัฐฯ ให้หยุดทำให้ประเด็นเศรษฐกิจและการค้ากลายเป็นเรื่องการเมือง
ขณะที่หวังกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “สิ่งสำคัญคือการยึดมั่นในทิศทางการเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย”
ภาพ: Ng Han Guan / Pool via REUTERS
อ้างอิง: