“อีกฝ่ายเป็นแค่นักวิชาการ ไม่ใช่โจรสลัดป่าเถื่อน ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้นด้วย พวกนายอ่อนแอถึงขนาดกำราบไม่อยู่เลยเหรอ”
แฮควาร์ ดี เซาโล พลเรือโทแห่งกองทัพเรือ กล่าวประโยคนี้กับผู้บัญชาการเซนโกคุด้วยความรู้สึกโกรธแค้นและสิ้นหวัง เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกมอบหมายให้เป็นหนึ่งในผู้ปฏิบัติภารกิจ ‘สลายการรวมตัว’ ของ ‘นักวิชาการ’ แห่งโอฮารา กลุ่มคนไร้อาวุธที่มีเพียงองค์ความรู้และหนังสือจากทั่วทุกมุมโลกที่สะสมไว้ใน ‘ต้นไม้แห่งปัญญา’ เป็นเครื่องมือแสวงหาความจริง
พวกเขาเพียงแค่อยากรู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์ เพียงแค่ตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลา 100 ปีที่หายไป
พวกเขารวมตัวกันโดยปราศจากอาวุธ มีเพียงเจตนาบริสุทธิ์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตที่แสนดำมืดไปสู่อนาคตที่สดใสของคนรุ่นหลัง
แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับกลับกลายเป็นถูก ‘ป้ายสี’ จากกองทัพเรือให้กลายเป็น ‘ปีศาจ’ ที่ต้องการทำลายโลก และ ‘ล้มล้าง’ บางสิ่งบางอย่าง จนต้องถูกทำลายให้สิ้นซากด้วยอำนาจ ‘บัสเตอร์คอล’ ที่ประกอบไปด้วยพลเรือโท 5 คน และเรือรบ 10 ลำ
แสนยานุภาพที่น่าภาคภูมิใจและมีอยู่เพื่อปกป้อง กลับกลายเป็นเพียงเครื่องมือทำลายล้างผู้คนที่เห็นต่าง และสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองด้วยการประกาศว่านี่คือความถูกต้อง นี่คือความจำเป็นเพื่อรักษาความสงบสุขเอาไว้
ก่อนที่จะเข้าร่วมปฏิบัติการ เซาโลอาจไม่ต่างจากคนอื่นเผลอคิดไปว่า ‘นักวิชาการ’ จากโอฮาราเป็นภัยต่อความมั่นคง แต่เมื่อเขาได้สบตากับ นิโค โอเวีย หนึ่งในทีมสำรวจของนักวิชาการที่ถูกจับกุม และพบว่าแท้จริงแล้วเธอก็เป็น ‘มนุษย์’ คนหนึ่งที่มีเลือดเนื้อ มีความฝัน มีคนรักที่รออยู่ มีสิ่งที่ต้องปกป้องมิใช่ปีศาจตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
เมื่อความยุติธรรมที่เคยเชื่อถือถูกทำลาย แฮควาร์ ดี เซาโล ตัดสินใจลาออกจากกองทัพ ใช้พลังของตัวเองที่ถูกมอบหมายให้ทำลายล้าง หันมายืนเคียงข้างนักวิชาการมือเปล่าแห่งหมู่บ้านโฮอารา ที่ทำได้เพียงโยนหนังสือทั้งหมดออกจากต้นไม้แห่งปัญญา หวังว่าขอเพียงเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาสตร์รอดพ้นจากการ ‘ทำลายล้าง’ ได้บ้างก็ยังดี
สุดท้ายหมู่บ้านโอฮาราถูกกำลังรบที่รัฐบาลโลกภาคภูมิใจ ‘ลบ’ หายไปจากแผนที่ แต่อย่างน้อยที่สุด แฮควาร์ ดี เซาโล ก็ได้แลกชีวิตเพื่อปกป้อง ‘เมล็ดพันธุ์’ เล็กๆ แห่งโอฮาราที่ชื่อว่า ‘นิโคโรบิน’ ให้มีชีวิตรอดต่อไป
เพื่อที่วันหนึ่งเด็กสาวที่ถูกใส่ร้ายว่าเป็น ‘ปีศาจ’ จะได้พบเจอกับ ‘พวกพ้อง’ คนรุ่นใหม่ รวมตัวกันเพื่อ ‘เปลี่ยนแปลง’ และขีดเขียนอนาคตแห่งประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ด้วยตัวของพวกเขาเอง
ถึงแม้เซาโลจะไม่มีชีวิตรอดเพื่ออยู่ขอพรวันเกิดให้กับตัวเอง เราขอเป็นหนึ่งเสียงที่ขอให้การเสียสละของเขามีประโยชน์ไม่ใช่แค่ในการ์ตูน
แต่เราหวังว่าหัวใจแห่งความยุติธรรม ที่เชื่อมั่นว่าพลังของเจ้าหน้าที่รัฐมีไว้เพื่อปกป้องประชาชน มากกว่าปราบปรามให้สูญสลายของเซาโล
จะได้หว่านเมล็ดพันธุ์ลงในหัวใจของ ‘เจ้าหน้าที่’ อีกหลายคนที่ถือคำสั่ง ‘บัสเตอร์คอลล์’ กำราบประชาชนบนโลกแห่งความเป็นจริง ให้มีความกล้าหาญลุกขึ้นมาขัดขืนคำสั่งได้สักครึ่งหนึ่งแบบที่เซาโลเคยทำเอาไว้
ไม่ต้องถึงขั้นแลกด้วยชีวิต แต่ขอแค่ให้มองทุกคนเป็น ‘มนุษย์ที่มีชีวิต’ พิจารณาให้ถ้วนถี่ว่ามีใครสมควรถูกกระทืบ คุมขัง อุ้มหาย แบบที่เป็นอยู่จริงๆ หรือ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า