จากทิศทางข่าวแล้วดูเหมือนไม่น่ามีอะไรพลิกโผสำหรับอนาคตของ จาดอน ซานโช ปีกจอมลีลาที่ดูจะได้ย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่รายงานข่าวล่าสุดจากอังกฤษระบุว่านักเตะได้ตกลงยอมรับข้อเสนอสัญญาระยะเวลา 5 ปี โดยจะได้รับค่าเหนื่อยสูงถึง 250,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
สิ่งที่เหลืออยู่คือเรื่องของการเจรจาค่าตัวกับทางด้านทีม ‘เสือเหลือง’ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ให้ได้ภายในเส้นตายวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ซึ่งการเจรจานั้นต้องบอกว่าคืบหน้าอย่างรวดเร็ว เรียกว่าภายในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมาเกิดความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในกรณีนี้หลายครั้ง โดยที่ส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงบวก
ตามรายงานล่าสุดทางด้านแมนฯ ยูไนเต็ด จะจ่ายเงินค่าตัวของซานโชเริ่มต้นที่ 90 ล้านปอนด์ หรือ 100 ล้านยูโร ซึ่งเป็นจำนวนขั้นต่ำที่ทางด้านดอร์ทมุนด์พอใจ
แต่เพื่อจะให้ไม่กระทบกับสถานะทางการเงินของสโมสรมากเกินไป ค่าตัวก้อนนี้จะถูกแบ่งชำระออกเป็น 3 งวดในระยะเวลา 3 ปีด้วยกัน โดยนอกจากนี้จะมีการจ่ายเงินตามเงื่อนไขผลงานของซานโชที่สูงสุดอยู่ที่ 18 ล้านปอนด์
ตัวเลขนี้เชื่อว่าดอร์ทมุนด์น่าจะพอใจยอมรับข้อเสนอสำหรับการสูญเสียซูเปอร์สตาร์ที่มีความสำคัญลำดับต้นๆ ของทีมออกไป
อย่างไรก็ดี BBC รายงานว่าการเจรจาระหว่างสองฝ่ายนั้นยังไม่ได้ใกล้เคียงที่จะตกลงกันได้ตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ทั้งในเรื่องของค่าตัวที่แมนฯ ยูไนเต็ดเช่ือว่าเป็นค่าตัวที่สูงเกินไปสำหรับสถานการณ์นี้ เช่นกันกับค่าเหนื่อยที่สโมสรมีบทเรียนไม่น้อยจากการให้ค่าเหนื่อยมหาศาลกับ อเล็กซิส ซานเชซ
สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ตามรายงานข่าวของ BBC คือการเจรจาที่ตึงเครียด โดยทางแมนฯ ยูไนเต็ดมีจุดยืนที่ต้องการให้ดอร์ทมุนด์ลดค่าตัวลง ขณะที่ทีมดังบุนเดสลีกาก็ต้องการจะได้ค่าตัวตามที่ได้แจ้งไปเท่านั้น ซึ่งหากไม่สามารถหาตรงกลางร่วมกันได้ทันเวลาการย้ายทีมจะไม่เกิดขึ้น
แมนฯ ยูไนเต็ดยังมีเป้าหมายสำรองอย่าง คิงสลีย์ โกม็อง ปีกดาวเด่นของบาเยิร์น มิวนิก ที่มีข่าวให้ความสนใจอยู่เนืองๆ
ดังนั้น การเจรจาจะออกมาหน้าไหนยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด
เหตุผลที่ผีแดงควรทุ่มเพื่อซานโช
ไม่ว่าจะต่อรองค่าตัวได้แค่ไหน แต่ความเป็นไปได้คือการที่แมนฯ ยูไนเต็ดจะต้องจ่ายเงินมหาศาลในสถานการณ์โรคระบาดที่ทุกสโมสรได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
แต่ดูเหมือนว่ามันเป็นจำนวนเงินที่อาจคุ้มค่าสำหรับการเดิมพันครั้งใหญ่
เป้าหมายของยูไนเต็ดอยู่ที่การกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลอังกฤษคืนอีกครั้ง ซึ่งซานโชจะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมร่วมกับอองโตนี มาร์กซิยาล, มาร์คัส แรชฟอร์ด รวมถึงไอ้หนูมหัศจรรย์ เมสัน กรีนวูด ที่แจ้งเกิดได้อย่างสวยงามในฤดูกาลที่ผ่านมา
โดยที่ดาวเตะวัย 20 ปีเองก็ดูเหมือนจะเชื่อใน ‘โปรเจกต์’ การชุบชีวิตปีศาจแดงที่กำลังเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องอีกครั้ง แม้ว่า โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ จะใช้เวลาไม่น้อย และเกือบที่จะหมดเวลาในการคุมทีมอยู่แล้วด้วยซ้ำ
เรื่องนี้ก็ไม่ผิดอะไรเพราะเวลานี้แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในทีมที่น่าตื่นเต้นและน่าจับตามองมากที่สุดของพรีเมียร์ลีก หลังจากที่ทีมกลับมาทำผลงานได้อย่างร้อนแรงในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง
แม้จะเคยมีข่าวกับลิเวอร์พูล แต่ในเมื่อแชมป์พรีเมียร์ลีกไม่มีแนวคิดที่จะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อคว้าตัวนักเตะในระดับนี้มาร่วมทีม ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรอ และแมนฯ ยูไนเต็ดเองก็ไม่ใช่ทีมไก่กา ถึงจะตกต่ำไปบ้างแต่การกลับมาเข้ารูปเข้ารอย และการได้ไปแชมเปียนส์ลีกอีกครั้งก็มีส่วนช่วยในการตัดสินใจของปีกเจ้าพ่อ YouTube อย่างมาก
ไม่นับเรื่องของเงินค่าเหนื่อยที่จะได้รับมากมายมหาศาลกว่าครั้งอยู่กับดอร์ทมุนด์ และเป็นจำนวนที่ยากมากที่จะหาทีมไหนจ่ายให้เขาได้ในระดับนี้
และสิ่งสำคัญที่สุดคือการที่เขาจะสามารถหนีพ้นจากดอร์ทมุนด์ หลังจากที่มีปัญหาภายในสโมสรจนต้องการที่จะย้ายออกมาพิสูจน์ตัวเองในการผจญภัยครั้งใหม่
สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด ถึงจะต้องจ่ายเงินมหาศาล แต่การลงทุนกับซูเปอร์สตาร์ในระดับหัวแถวของวงการ คนที่ได้รับการยกย่องว่า ‘เก่งที่สุดคนหนึ่งในยุคสมัย’ จำนวนเงินที่ต้องจ่ายนั้นเป็นการจ่ายที่ฟังขึ้น
เรื่องในสนามไม่ต้องพูดถึง ผลงาน 17 ประตูกับ 17 แอสซิสต์ในฤดูกาลล่าสุดกับดอร์ทมุนด์เป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก และเป็นสิ่งที่แฟนปีศาจแดงคาดหวังได้ว่าจะได้ผลตอบแทนกลับมาไม่มากกว่าก็ต้องใกล้เคียงกัน
สิ่งสำคัญคือนักเตะระดับนี้ไม่ได้มีให้ซื้อทุกวัน และการซื้อโดยที่แทบไม่มีคู่แข่ง เพราะคู่แข่งต่างเก็บเนื้อเก็บตัวไม่กล้าลงทุนนั้นเป็นโอกาสที่ไม่ค่อยปล่อยให้ผ่านไป โดยเฉพาะเมื่อทีมยังมีพื้นฐานที่แข็งแรงมากพอที่จะหาทางออกให้กับการเจรจาได้แบบนี้
เรื่องนอกสนามยิ่งไม่น่าห่วง เพราะซานโชดีพอจะเป็น Poster Boy เป็นพระเอกให้กับทีมหาเงินได้อย่างสบายๆ เผลอๆ ยอดสั่งจองเสื้อก็อาจจะช่วยหักกลบลบหนี้ได้มากพอสมควรแล้ว (เหมือนที่ยูเวนตุสแทบจะถอนทุนคืนได้ทันทีจากการจำหน่ายเสื้อ คริสเตียโน โรนัลโด)
และด้วยความที่อายุยังน้อย นั่นหมายถึงทีมยังมีโอกาสที่จะขายทำกำไรในอนาคต หรืออย่างน้อยก็ขาดทุนได้ยากมาก และจุดนี้คือสิ่งที่ชัดเจนว่าการลงทุนกับซานโชนั้นแตกต่างจากการลงทุนกับ อเล็กซิส ซานเชซ อย่างสิ้นเชิง
พูดถึงตรงนี้ก็มีข่าวดีอีกอย่าง คือการที่แมนฯ ยูไนเต็ดใกล้จะปล่อยตัวดาวเตะชิลีซึ่งเป็นปัญหาคาราคาซังของทีม เพราะรับค่าเหนื่อยสูงที่สุดถึง 390,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์จนยากที่จะโละไปให้คนอื่น
งานนี้แม้ว่าอินเตอร์ มิลานอาจจะไม่ยอมจ่ายค่าตัวให้แม้แต่แดงเดียว แต่การที่รับอเล็กซิสไปดูแลเต็มๆ ก็ถือเป็นการแบ่งเบาภาระได้มากแล้ว และทำให้ทีมมีโอกาสที่จะขยับได้มากขึ้นในตลาดนักเตะฤดูร้อนนี้
การลงทุนกับ จาดอน ซานโช ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แมนฯ ยูไนเต็ดสูงยิ่งขึ้นไปอีก หลังจากที่ทีมกำลังกลับมาอยู่ในร่องในรอยจนยึดอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีกมาครองได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่ถูกมองว่าจะจบได้แค่ Top 6 ตลอดทั้งฤดูกาล
ชื่อเสียงที่เคยเป็นชื่อเสียของ เอ็ด วูดเวิร์ด และทีมบริหารก็จะกลับมาได้รับการชื่นชมอีกครั้ง
เรียกได้ว่าดีลของ จาดอน ซานโช นั้นดูแล้วได้มากกว่าเสีย แต่ถ้าแมนฯ ยูไนเต็ดไม่อยากจะเสีย (เงิน) ขึ้นมา คนที่อาจจะเสีย (ใจ) มากที่สุดคือตัวของซานโชเองที่ต้องทนอยู่กับดอร์ทมุนด์ต่อไปอีกปี
มหากาพย์การย้ายทีมครั้งนี้คาดว่าจะไม่ยืดเยื้อมากนัก แต่จะมีบทสรุปอย่างไร จะมีข่าวดีจากทาง Fabrizio Romano ในเร็วๆ นี้หรือไม่ ต้องคอยติดตามกัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- www.theguardian.com/football/2020/aug/04/manchester-united-close-to-deal-with-borussia-dortmund-after-jadon-sancho-agrees-personal-terms
- www.skysports.com/football/news/12691/12041587/jadon-sancho-manchester-united-close-to-agreeing-personal-terms-on-five-year-deal
- หากดีลนี้ลุล่วงจริง ทีมที่จะได้ผลประโยชน์ทางอ้อมด้วยคือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะได้เงินส่วนแบ่งจากการย้ายทีมครั้งนี้ถึง 15 ล้านปอนด์