Jackson Wang ให้สัมภาษณ์ในรายการพอดแคสต์ The Zone Lowe Interview ของ Apple Music สำหรับการโปรโมตอัลบั้มใหม่ MAGICMAN 2 ที่เขาเพิ่งปล่อยออกมาให้ฟังในวันที่ 18 กรกฎาคม ซึ่งส่วนหนึ่งของการพูดคุยก็มีทั้งเรื่องราวการทำงานเบื้องหลังอัลบั้มนี้ ชีวิตศิลปินของเขา รวมทั้งการทำงานในฐานะศิลปินเดี่ยวด้วย
Jackson เล่าว่า ในตอนที่เขาเป็นศิลปินที่อยู่ในระบบของต้นสังกัดหรือมีค่าย ชีวิตของศิลปินก็จะง่ายกว่าในแง่ของการมีคนจัดเตรียมทุกอย่างให้แล้ว เพียงแค่ตัวศิลปินไปปรากฏตัวแล้วทำงานตามโจทย์ ก็ถือว่าสมบูรณ์แล้วสำหรับการทำงาน แต่ตัวศิลปินเองก็จะไม่ได้ทำเพลงอย่างใจที่อยากทำ
ในขณะที่การเป็นศิลปินเดี่ยวจะยากอีกแบบ เพราะการทำงานแบบนี้เป็นเหมือนกับ ‘One Man Label’ ค่ายเพลงที่เขาต้องจัดการทุกอย่างเองคนเดียว ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่เขาเริ่มทำงานในฐานะศิลปินเดี่ยว เขาก็มีส่วนร่วมในกระบวนการทำงานทุกอย่าง ไล่เรียงไปตั้งแต่การเขียนเพลง การทำทรีตเมนต์ ออกแบบคอนเซ็ปต์งาน การเตรียมงาน การทำคลิปเบื้องหลัง การโปรโมต และอีกมากมาย
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นงานที่เหนื่อยมาก แต่ในแง่ของการเป็นศิลปินที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ เขาได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการทำสิ่งเหล่านี้ ทั้งยังได้สำรวจตัวตนของตัวเอง และสามารถเล่าเรื่องต่างๆ ได้อย่างจริงใจและเป็นอิสระมากกว่า
“มันมีทั้งข้อดีและเสีย ถ้าคุณอยู่ในระบบ ทุกอย่างก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว คุณแค่ต้องไปทำงานตรงนั้น โฟกัสกับมัน แล้วก็ตั้งใจทำออกมาให้เต็มที่ แต่ในฐานะศิลปินเดี่ยวหรือศิลปินไร้สังกัด มันมีงานที่ต้องทำเยอะมาก”
Zane Lowe ยังถามอีกด้วยว่า แล้วช่วงเวลาไหนในการทำงานที่เขารู้สึกว่าเปรียบเป็นแสงสว่างในชีวิต ซึ่งเขาก็ตอบว่า “สิ่งที่เป็นเหมือนแสงสว่างในตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา คือการที่ผมได้อยู่บนเวทีแล้วมีผู้ชมมากมายอยู่ตรงนั้น นั่นแหละคือคำตอบ แต่สิ่งหนึ่งที่ค่อยๆ ทำลายผมจากภายในคือเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลัง ผมไม่เคยชินกับสิ่งนี้เลย ผมไม่รู้จะรับมืออย่างไร ทั้งในด้านของความเป็นจริงทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้น และด้านความเป็นมนุษย์ของทุกๆ อย่าง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงทำอัลบั้มนี้ขึ้นมา นี่เป็นการทำงานเพื่อตอบสนองตัวผมเองล้วนๆ เลย”
MAGICMAN 2 เป็นอัลบั้มใหม่ของ Jackson Wang ที่สะท้อนตัวตนและประสบการณ์ต่างๆ ในชีวิตที่ผ่านมา ตั้งแต่จุดที่เขารู้สึกหลงทาง เจ็บปวด ไปจนถึงจุดที่เขาสามารถยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นและก้าวต่อไปได้ ซึ่งอาจเรียกได้ว่านี่เป็นไดอารีบันทึกความรู้สึกของเขาที่จริงใจและเป็นตัวเองมากที่สุด
ภาพ: Liu Song
อ้างอิง: