สำนักข่าว The Street รายงานว่า J.P. Morgan และ UBS สองสถาบันการเงินชั้นนำของโลก กำลังจัดตั้งกองทุนสำหรับเก็งกำไรบนคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการเข้ามาเกี่ยวข้องในวงการคริปโตเคอร์เรนซีจาก Wall Street
การเข้ามาลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีของสองธนาคารใหญ่นี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของตลาด เพราะในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ธนาคาร Wells Fargo ก็เพิ่งประกาศว่าฝ่ายการลงทุนของพวกเขากำลังพัฒนากลยุทธ์ลงทุนเชิงรุกให้กับลูกค้ากระเป๋าหนักที่สนใจในคริปโตเคอร์เรนซีเช่นกัน
โดยกลยุทธ์การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีของกองทุนเหล่านี้จะเป็นการลงทุนผ่านหน่วยงานที่เรียกว่า FOF (Fund-of-Funds) ซึ่งจะเน้นการลงทุนในกองทุนอื่นอีกที แทนที่จะลงทุนในหุ้นหรือพันธบัตรโดยตรงเพื่อกระจายความเสี่ยง
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า J.P. Morgan กำลังพิจารณาตั้งกองทุน Bitcoin ตามความต้องการของลูกค้า
ขณะที่ธนาคารใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์อย่าง UBS ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็เริ่มศึกษาวิธีการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อนำเสนอให้แก่ลูกค้าระดับบนของพวกเขาเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ข่าวลือเรื่องการเข้าไปทำธุรกิจที่เกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีของ UBS กลับขัดแย้งกับบทความที่ตีพิมพ์โดยทีมบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ของธนาคาร ที่แนะนำให้นักลงทุนถอยห่างจากคริปโตเคอร์เรนซีที่กำลังจะถูกทางการออกกฎระเบียบมาควบคุม
“หน่วยงานกำกับดูแลได้แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาสามารถปราบปรามคริปโตเคอร์เรนซีได้ และจะทำสิ่งนั้น เราจึงแนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า” ข้อความในบทความดังกล่าวระบุ
หลังการปรับฐานครั้งล่าสุดของคริปโตเคอร์เรนซี นักลงทุนใน Wall Street โดยทั่วไปยังกังขาต่อความผันผวนของคริปโตเคอร์เรนซี เมื่อเร็วๆ นี้ ลาร์รี ฟิงก์ ซีอีโอของกองทุน BlackRock บอกกับ CNBC ว่า มีความต้องการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีจากลูกค้าของเขา “น้อยมากๆ”
อ้างอิง: