เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 2Q65 ของ บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 10 สิงหาคม 2565
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น IVL ปรับตัวลดลง 14.15%MoM อยู่ที่ระดับ 44.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลดลง 3.67%MoM อยู่ที่ระดับ 1,544.21 จุด
พรีวิวผลประกอบการ 2Q65:
SCBS คาดว่าผลการดำเนินงาน 2Q65 จะยังคงแข็งแกร่ง โดยจะมีกำไรสุทธิ 1.43 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 72%YoY และ 2%QoQ ซึ่งมีกำไรจากสินค้าคงเหลือราว 3.6 พันล้านบาทรวมอยู่ด้วย ขณะที่คาดการณ์กำไรปกติที่ 1.08 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 62%YoY และ 2%QoQ โดย Oxiteno จะช่วยหนุนให้สัดส่วนกำไรจากกลุ่มธุรกิจ IOD ปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ผู้บริหารยังมองบวกต่อแนวโน้มอัตรากำไรของผลิตภัณฑ์ MTBE เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น ซึ่ง SCBS เชื่อว่า IVL ได้เพิ่มผลผลิต MTBE ให้สูงที่สุดเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดังกล่าว นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ถึงผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการประหยัดต้นทุนอย่าง Olympus หลังจากได้รับผลประโยชน์เฉลี่ยต่อปี 444 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน 1Q65 เทียบกับเป้าที่วางไว้เต็มปีที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565
ด้าน Core EBITDA/t คาดทรงตัว QoQ แม้ว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ของอุตสาหกรรม Integrated PET/PTA ทั้งในตลาดเอเชียและตลาดตะวันตกลดลง ซึ่งสะท้อนถึงต้นทุนการดำเนินงานที่แข่งขันได้ของบริษัทและการประหยัดต่อขนาด นอกจากนี้ ส่วนต่างราคา Integrated PET/PTA ในตลาดตะวันตกยังสูงกว่าตลาดเอเชีย โดยมีสาเหตุมาจากอุปทานที่ตึงตัวขึ้นและต้นทุนโลจิสติกส์สูง
ซึ่งธุรกิจ Combined PET ในอเมริกาเหนือและยุโรปคิดเป็น 63% ของรายได้รวมของกลุ่มธุรกิจ Combined PET ในปี 2564 และคาดว่ากลุ่มธุรกิจ IOD จะมี Core EBITDA/t สูงขึ้น เพราะส่วนต่างราคา MTBE เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 139%QoQ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น และราคา MTBE ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น แต่ถูกลดทอนลงบางส่วนโดยส่วนต่างราคา MEG ที่ลดลง เพราะความต้องการโพลีเอสเตอร์ลดลง
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นใยไลฟ์สไตล์น่าจะตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน โดยคาดว่าการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิดของจีนส่งผลกระทบด้านลบต่อกลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นใยไลฟ์สไตล์ของ IVL หลังจากฟื้นตัวช่วงสั้นๆ ใน 4Q64 และ 1Q65 โดยคาดว่าจะสร้างแรงกดดันต่อ Core EBITDA จากกลุ่มธุรกิจเส้นใยใน 2Q65 โดยจะลดลง 21%QoQ และทรงตัว YoY
แนวโน้มผลประกอบการปี 2565:
SCBS มองว่า ความต้องการผลิตภัณฑ์ของ IVL มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในปี 2565 หลังจากฟื้นตัว 8%YoY ในปี 2564 โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ Combined PET และกลุ่มธุรกิจ IOD ความต้องการ PET น่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อการรวมกลุ่มทางสังคม เช่น อีเวนต์ด้านกีฬา กลับคืนสู่ภาวะปกติ เนื่องจากอัตราการฉัดวัคซีนโควิดเพิ่มสูงขึ้น
และผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้นอีกในปี 2565 เนื่องจากสินทรัพย์ที่เพิ่งเข้าซื้อมาใหม่ (Oxiteno) จะทำให้พอร์ตธุรกิจ IOD ในสหรัฐฯ ของ IVL ขยายใหญ่ขึ้น การดำเนินงานของธุรกิจ IOD ที่มีอยู่เดิมในสหรัฐฯ ก็จะปรับตัวดีขึ้น อันเป็นผลมาจากการกลับมาเดินเครื่องผลิตของโรงงานอีเทนแครกเกอร์ด้วยต้นทุนก๊าซที่แข่งขันได้
อย่างไรก็ดี ด้านราคาหุ้น IVL ที่ปรับตัวลดลง 12% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา Underperform SET ที่ลดลง 5% และ SETPETRO ที่ลดลง 9% สะท้อนถึงมุมมองเชิงลบของตลาดต่อส่วนต่างราคา PET ที่ลดลง และความกังวลเกี่ยวกับธุรกิจในยุโรป สืบเนื่องมาจากวิกฤตยูเครนที่ยืดเยื้อและต้นทุนพลังงานสูง
SCBS เชื่อว่าตลาดมองลบมากเกินไป เนื่องจากการดำเนินงานในยุโรปของ IVL ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้ อีกทั้งผู้บริหารยังยืนยันว่า ธุรกิจของ IVL จะได้รับการคุ้มครองจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ 75% ของบริษัทเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน และคาดว่าผลประกอบการจะยังคงแข็งแกร่งใน 2H65
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP