ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) ล่าสุด (30 ตุลาคม) ปรับตัวขึ้น 12.43% จากวันก่อนหน้า มาปิดที่ 19 บาท ทำจุดสูงสุดในรอบ 9 วันทำการ โดยราคาหุ้นเปิดกระโดดขึ้นมาในช่วงตลาดเปิดทำการซื้อขายช่วงบ่าย หลังจากที่บริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 44.8% จากไตรมาสก่อน ทำได้ 644.5 ล้านบาท แต่หดตัว 56% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
บริษัทเปิดเผยว่า รายได้จากการขายในไตรมาส 3 อยู่ที่ 3,999.5 ล้านบาท ลดลง 34.7% จากปีก่อน เนื่องจากลูกค้าในสหรัฐฯ และยุโรปยังคงเร่งระบายสินค้าคงเหลือ ทั้งนี้ ลูกค้าหลักในสองพื้นที่ดังกล่าวเริ่มกลับมาสั่งซื้อมากขึ้น และระดับสินค้าคงเหลือของลูกค้าเริ่มกลับสู่ระดับปกติ รวมทั้งผลจากกลยุทธ์การปรับราคาของบริษัท
อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทยังคงไม่สามารถกลับไปเท่ากับที่เคยทำได้ 25.4% เมื่อปีก่อน โดยไตรมาสล่าสุดทำได้ 19.2% เนื่องจากสัดส่วนการขายสินค้าพรีเมียมลดลง และการตั้งสำรองสินค้าคงเหลือ แต่อัตรากำไรขั้นต้นยังสามารถฟื้นตัวได้จากไตรมาสก่อนที่ทำได้ 18.4% จากราคาขายที่สูงขึ้น และมาตรการบริหารต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ครึ่งแรกของปีนี้
ปัจจุบันลูกค้าของ ITC มีสัดส่วนในสหรัฐฯ 46% เอเชียและโอเชียเนีย 42.6% และยุโรป 11.4% โดยที่สัดส่วนของยอดขายแบ่งตามชนิดสินค้าปัจจุบันมาจากอาหารสัตว์เลี้ยง 94% และอื่นๆ อีก 6%
ด้าน บล.พาย ระบุว่า ITC มีแนวโน้มจะเติบโตเฉลี่ย 6.2% ต่อปี ระหว่างปี 2566-2571 โดยบริษัทตั้งเป้าจะขยายไปยังจีนมากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตเฉลี่ยกว่า 9.3% ในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม กำไรของ ITC ทั้งปี 2566 ยังมีแนวโน้มจะหดตัวราว 50% จากปีก่อน ก่อนที่ในปี 2567 จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตกว่า 32,000 ตัน ช่วงต้นปีหน้า จากเดิมที่มีอยู่ 2 โรงงาน กำลังการผลิตรวม 172,786 ตันต่อปี
