อิตาลีเปิดพรมแดนเป็นชาติแรกในยุโรป หวังฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

รัฐบาลอิตาลีเริ่มต้นเปิดพรมแดนเปิดรับนักเดินทางจากชาติยุโรปตั้งแต่เมื่อวานนี้ (3 มิถุนายน) โดยถือเป็นชาติแรกในทวีปยุโรปที่ตัดสินใจเปิดพรมแดน ท่ามกลางความพยายามฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หลังปิดพรมแดนเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 มานานกว่า 3 เดือน

อิตาลียังได้ยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างภูมิภาค พร้อมเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงก่อนการเปิดพรมแดนดังกล่าว ขณะที่เที่ยวบินระหว่างประเทศเริ่มกลับมาให้บริการใน 3 เมืองใหญ่อย่างกรุงโรม มิลาน และเนเปิลส์ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (3 มิถุนายน)

ซึ่งผู้ที่เดินทางมาจาก 26 ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป รวมถึงสหราชอาณาจักร ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ โมนาโก ราชรัฐอันดอร์รา สาธารณรัฐซานมารีโน และนครรัฐวาติกัน จะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าอิตาลีได้โดยไม่ต้องถูกกักตัว 14 วัน

อย่างไรก็ตาม หลายชาติยุโรปมองว่าการตัดสินใจของรัฐบาลอิตาลีนั้นเร็วเกินไป ขณะที่หลายประเทศ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย และกรีซ ตั้งเป้าเปิดพรมแดนในวันที่ 15 มิถุนายน และบางประเทศอาจเปิดหลังจากนี้ ซึ่งหลายประเทศยังไม่พร้อมเปิดพรมแดนรับนักเดินทางจากอิตาลี เนื่องจากมองว่าสถานการณ์ในอิตาลียังคงสุ่มเสี่ยง พร้อมเตือนพลเรือนที่เดินทางไปยังอิตาลีต้องถูกกักตัวและเฝ้าระวังการติดเชื้อหลังกลับประเทศ

ด้าน ลุยจี ดี มาโย รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี ประกาศเตรียมเดินทางไปเยือนเยอรมนี สโลเวเนีย และกรีซ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อหารือและโน้มน้าวว่าตอนนี้อิตาลีเป็นประเทศที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว

ขณะที่ จูเซปเป คอนเต้ นายกรัฐมนตรีอิตาลี ระบุถึงการตัดสินใจของเพื่อนบ้านอย่างออสเตรียและกรีซที่ไม่ยอมเปิดพรมแดนด้านที่ติดกับอิตาลีว่าเป็นการเลือกปฏิบัติและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

“มีบางประเทศที่ผมคิดว่าเหมาะสมที่จะนำมาตรการป้องกันมาใช้สำหรับประเทศที่ตอนนี้มีอัตราการระบาดที่สูง แต่ไม่มีเหตุผลเลยสำหรับออสเตรียหรือกรีซที่จะใช้มาตรการเลือกปฏิบัติต่ออิตาลี” คอนเต้กล่าว

ปัจจุบันยอดผู้ติดเชื้อสะสมโควิด-19 ในอิตาลีอยู่ที่ราว 233,000 ราย โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ราว 300-500 ราย และมีผู้เสียชีวิตราว 33,600 คน

ขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของอิตาลีมีสัดส่วนคิดเป็น 13% ของเศรษฐกิจทั้งหมด ซึ่งธนาคารกลางของอิตาลีคาดการณ์ตัวเลข GDP ในปีนี้อาจหดตัวมากถึง 13% จากผลกระทบการระบาดของโรคโควิด-19