อิตาลี เก็บ 9 คะแนนเต็มพร้อมทำสถิติไม่เสียประตูในรอบแบ่งกลุ่ม หลังเฉือนชนะเวลส์ 1-0 ในเกมนัดสุดท้ายกลุ่ม A ฟุตบอลยูโร 2020
เกมนัดที่ 3 ในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม A ที่สตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม ทีมชาติอิตาลีที่เก็บมา 6 คะแนนเต็มจาก 2 นัดและเข้ารอบไปแล้ว พบกับทีมชาติเวลส์ที่ยังต้องลุ้นตำแหน่งในการเข้ารอบ จากการมี 4 แต้มจาก 2 นัดที่ผ่านมา โดยเกมนี้อิตาลีที่พักตัวผู้เล่นถึง 8 ตำแหน่งเดินหน้าบุกใส่ไม่ต่างจากเกมก่อนหน้า แต่กว่าจะมาได้ประตูนำก็ต้องรอถึงนาทีที่ 39 จากจังหวะฟรีคิกเปิดเข้ามา และ มัตเตโอ เปสซินา เปลี่ยนทางเข้าไปให้อิตาลีนำ 1-0
ครึ่งหลังเวลส์พยายามจะบุกเพื่อหวังทวงประตูคืนแต่ก็ยังไม่มีจังหวะที่จะแจ้ง กระทั่งนาทีที่ 56 กลับต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ อีธาน อัมปาดู ไปตัดเกมด้วยการย่ำใส่ข้อเท้าของ เฟเดรีโก แบร์นาร์เดสกี ต่อหน้าผู้ตัดสิน ทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม และเวลส์ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน หลังจากนั้นอิตาลีก็ครองบอลบุกใส่ พยายามจะทำประตูเพิ่มแต่ก็ไม่สำเร็จ ทำให้จบเกมอิตาลีชนะเวลส์ 1-0
MAN OF THE MATCH: เฟเดริโก คิเอซา (อิตาลี)
ส่วนเกมอีกคู่ที่สนามบากูสเตเดียม สวิตเซอร์แลนด์ที่มี 1 คะแนนและยังมีลุ้นเข้ารอบพบกับ ตุรกีที่แพ้มา 2 นัดก่อนหน้านี้และยังไม่มีคะแนน โดยครึ่งแรกสวิตเซอร์แลนด์นำก่อน 2 ประตูรวด จากการยิงของ ฮาริส เซเฟโรวิช และ เซอร์ดาน ชากิรี แต่ในครึ่งหลังตุรกีไล่ตีตื้นขึ้นมาจาก อิร์ฟาน คาห์วิซี ทว่าชากิรีก็มายิงประตูที่ 2 ของตัวเอง และเป็นประตูให้ทีมชนะ 3-1
จากผลการแข่งขันทั้งสองคู่ ทำให้อิตาลีเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม A มี 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัด และยังไม่เสียประตูให้ใครในทัวร์นาเมนต์นี้ ขณะที่เวลส์ตามมาเป็นที่ 2 เนื่องจากประตูได้เสียที่ดีกว่า สวิตเซอร์แลนด์แม้จะมี 4 คะแนนเท่ากัน โดยสวิตเซอร์แลนด์ต้องไปลุ้นเข้ารอบในฐานะที่ 3 ที่ดีที่สุด 1 ใน 4 ทีมต่อไป ส่วนตุรกีแพ้รวด ไม่มีคะแนน ตกรอบไปเป็นทีมแรก