วันนี้ (30 กรกฎาคม) พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มอบรางวัลผลการประเมินคุณธรรม หรือ ITA AWARDS 2024 ซึ่งการประเมิน ITA ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศที่เข้าร่วมการประเมินทั้งสิ้น 8,325 หน่วยงาน โดยเริ่มเข้าสู่กระบวนการประเมินตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 และสิ้นสุดการประเมินในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ภายใต้การกำกับดูแลมาตรฐานการประเมินและความถูกต้องน่าเชื่อถือทางวิชาการ โดยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ
ผลการดำเนินการที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐที่เข้ารับการประเมินทุกหน่วยงาน และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกำกับดูแลและขับเคลื่อนการประเมิน ITA เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีส่วนร่วมตอบแบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในของบุคลากรภาครัฐ และการตอบแบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกของประชาชนที่มาติดต่อหรือรับบริการหน่วยงานภาครัฐ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,369,235 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 362,989 คน
ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 461,440 คน และประชาชนผู้มาติดต่อหรือรับบริการหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 907,795 คน ซึ่งถือว่ามีผู้เข้ามามีส่วนร่วมในการประเมินเป็นจำนวนมาก ในสัดส่วนที่สามารถสะท้อนผลการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐด้านคุณธรรมและความโปร่งใสได้อย่างเป็นรูปธรรม และมีความน่าเชื่อถือทางวิชาการ เช่นเดียวกันกับการดำเนินการในปีที่ผ่านมา อันจะเป็นข้อมูลสำคัญที่หน่วยงานภาครัฐจะได้นำไปปรับปรุงและพัฒนาหน่วยงานของตนเองได้อย่างเป็นมาตรฐานเดียวกัน
พล.ต.อ. วัชรพล กล่าวว่า ตอนนี้ ป.ป.ช. ไม่ต้องการเป็นมือปราบ แต่ใช้ป้องกัน นำการปราบปราม ซึ่ง ITA เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญยิ่งในเรื่องนี้ โดยเครื่องมือ ITA ถูกออกแบบให้มีจุดมุ่งหมายส่งเสริมธรรมาภิบาลและป้องกันการทุจริตเป็นหลัก สำหรับประเด็นคำถามมุ่งเน้นการป้องกันการทุจริตและป้องกันภาครัฐ หน่วยงานรัฐต้องปรับปรุงและพัฒนาตามการประเมินที่กำหนด ถ้าคะแนนดี สะท้อนการป้องกันการทุจริตและการบริหารจัดการที่ดี ส่งผลถึงสถานการณ์การทุจริตและประพฤติมิชอบในองค์กรนั้นๆ ได้ดีขึ้น
แต่ถ้าคะแนนไม่ดี อันนี้สำคัญ ไม่ได้หมายความว่าหน่วยงานมีการทุจริต แต่สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพการดำเนินงาน การบริหารจัดการ และการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ ทั้งนี้ ผลที่เกิดขึ้นไม่ได้ต้องการเพียงค่าคะแนน แต่กรอบของหลักการประเมินที่กำหนดขึ้นมาจากนโยบายการพัฒนาภาครัฐ แผนยุทธศาสตร์ มาตรฐานการดำเนินงาน และกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นกรอบชี้นำทิศทางขององค์กรภาครัฐแต่ละแห่งตั้งแต่เริ่มปีงบประมาณ
พล.ต.อ. วัชรพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการขยายการประเมินไปยังคู่ค้าของรัฐ ซึ่งดำเนินการแล้วในกรุงเทพมหานคร และในปี 2568 มีเป้าหมายขยายความร่วมมือในการขับเคลื่อนการประเมิน ITA ระดับส่วนงานย่อยภายในกับหน่วยงานอื่นเพิ่มเติมหลายแห่ง เช่น กรมสรรพากร, กรมที่ดิน, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมศุลกากร
อย่างไรก็ดี ยังมีหน่วยงานภาครัฐอีกเป็นจำนวนมากที่นำเครื่องมือการประเมิน ITA ไปปรับปรุงและต่อยอดขยายผลการประเมินภายในหน่วยงานตัวเอง เช่น กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และมหาวิทยาลัยต่างๆ
สำหรับผลการประเมินที่น่าสนใจคือ หน่วยงานส่วนกลางที่มีผลการประเมิน ‘ผ่านดีเยี่ยม’ แบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มกรมหรือเทียบเท่า ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้ 99.31 คะแนน, กองทัพเรือ 99.21 คะแนน, ธนาคารออมสิน 98.96 คะแนน, การประปานครหลวง 98.84 คะแนน, องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 98.46 คะแนน, กรมการศาสนา 98.30 คะแนน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 97.94 คะแนน กลุ่มหน่วยงานของรัฐอื่นๆ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ 97.27 คะแนน และกลุ่มรัฐวิสาหกิจคือ การยาสูบแห่งประเทศไทย 97.22 คะแนน
ส่วนผลการประเมินในรายกระทรวงพบว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ 93.85 คะแนน, กระทรวงแรงงาน 93.69 คะแนน, กระทรวงการคลัง 93.29 คะแนน, กระทรวงพลังงาน 92.92 คะแนน, กระทรวงวัฒนธรรม 92.37 คะแนน, กระทรวงมหาดไทย 92.13 คะแนน, กระทรวงยุติธรรม 91.42 คะแนน, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 90.88 คะแนน, กระทรวงพาณิชย์ 90.67 คะแนน, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 90.51 คะแนน, สำนักนายกรัฐมนตรี 90.14 คะแนน, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 90.11 คะแนน, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 89.69 คะแนน, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 89.66 คะแนน, กระทรวงสาธารณสุข 89.01 คะแนน, กระทรวงกลาโหม 88.91 คะแนน, กระทรวงการต่างประเทศ 88.7 คะแนน, หน่วยงานไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง 88.24 คะแนน, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 87.7 คะแนน, กระทรวงคมนาคม 86.67 คะแนน และกระทรวงศึกษาธิการ 82.66 คะแนน