สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ราคาน้ำมันอาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลระยะสั้น ในช่วงซัมเมอร์นี้ เนื่องจากอุปสงค์กลับมาดีอีกครั้ง ขณะที่ฝั่งโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งอาจไม่สอดรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นสอดรับการเปิดเมือง (Reopening) ส่งผลให้น้ำมันดิบเพิ่มขึ้นประมาณ 40% ตั้งแต่ต้นปี อย่างไรก็ตามการที่ชาวอเมริกันขับรถเพิ่มขึ้น รวมทั้งการขนส่งสินค้าและการเดินทางทางอากาศที่เพิ่มขึ้น อาจกดดันราคาต่อไปได้
โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้น 1.6% มาอยู่ที่ 71.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันพุธ (2 มิถุนายน) ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2563 ส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปรับขึ้น 1.6% อยู่ที่ 68.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ใกล้จุดสูงสุดเดิมเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2561 ที่ระดับ 69.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“ความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะทุกคนกำลังขับรถ และทางยุโรปเองก็กำลังจะมีการเปิดประเทศอีกครั้ง ขณะที่ทางอินเดียก็กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยส่วนตัวเชื่อว่าอินเดียน่าจะกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้เร็วๆ นี้” ฟรานซิสโก บล็องช์ นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์และอนุพันธ์ระดับโลกของ Bank of America กล่าวกับ CNBC
ขณะที่ แดเนียล เยอร์กิน รองประธานของ IHS Markit กล่าวว่า เราเห็นความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไตรมาส 1-3 ปีนี้ที่ 7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และประเมินว่าราคาน้ำมันดิบ Brent จะอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีนี้
“แต่ก็มีกรณีที่เหลือเชื่อซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ ที่ราคาน้ำมันอาจจะไปสูงถึงระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็จะกระทบต่อความต้องการในตลาด และอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาทางการเมืองด้วย โดยเราอาจจะได้เห็น โจ ไบเดน เริ่มดำเนินการบางอย่าง เพราะไบเดนอยู่ในสนามทางการเมืองมานานพอที่จะรู้ว่าราคาน้ำมันที่สูงมักจะเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่เป็นประธานาธิบดีเสมอ” แดเนียลกล่าวย้ำ
นอกจากนี้ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากมติของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านยังไม่มีแนวโน้มที่จะส่งน้ำมันออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ เนื่องจากความล่าช้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน
ที่ประชุมโอเปกพลัสเห็นพ้องที่จะดำเนินการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวันระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ขณะที่รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบียได้แสดงความเห็นว่า อุปสงค์ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในสหรัฐฯ และจีน รวมทั้งการแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว จะช่วยให้ตลาดน้ำมันโลกกลับสู่ภาวะสมดุลได้เร็วขึ้น
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของ S&P Global Platts คาดการณ์ว่า สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะลดลง 1.7 บาร์เรลในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคม (28 พฤษภาคม)
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2021/06/02/it-could-be-a-hot-summer-ahead-for-oil-prices.html
- https://www.cnbc.com/2021/06/02/two-ways-to-play-the-energy-space-as-oil-surges-past-68.html
- https://oilprice.com/Latest-Energy-News/World-News/Larger-Than-Expected-Crude-Draw-Fuels-Oil-Price-Rally.html