วันนี้ (11 พฤศจิกายน) สำนักงานศาลยุติธรรมได้ชี้แจงตามที่ปรากฏข่าวจากสื่อมวลชนบางสำนัก กรณี ‘พรชัย โควสุรัตน์’ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นจำเลยในคดีของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 ระหว่างอัยการสูงสุด โจทก์ กับ พรชัย โควสุรัตน์ กับพวกรวม 3 คน จำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกพรชัย มีกำหนด 20 ปี อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ได้ โดยกำหนดเงื่อนไขให้ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือกำไลอีเอ็ม (EM) แก่พรชัย และพรชัยหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ โดยระบุว่า เนื่องจากสัญญาณชุดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวของสำนักงานศาลยุติธรรมที่ติดตัวพรชัยได้ขาดหายไปประมาณเดือนเศษ จึงทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสัญญาณกำไลอีเอ็มในการติดตามตัวพรชัยที่อยู่ระหว่างการหลบหนีคดีได้นั้น
สำนักงานศาลยุติธรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่ายังมีความคลาดเคลื่อนในบางประการ จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวว่า ศูนย์ควบคุมติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวและการบังคับตามคำสั่งศาลโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานศาลยุติธรรม ได้ตรวจพบว่าชุดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ติดตามตัวพรชัยขัดข้อง และได้เปลี่ยนชุดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แก่พรชัยตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2564 และในระหว่างวันที่ 11 ตุลาคม ถึง 8 พฤศจิกายน 2564 ไม่พบความผิดปกติของอุปกรณ์ ต่อมาวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริการประชาชนของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ได้รับแจ้งจากศูนย์ควบคุมว่าสายรัดอุปกรณ์ที่ติดให้แก่พรชัยถูกทำลาย ศูนย์ควบคุมติดต่อไปยังพรชัยและบุคคลอ้างอิงแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยในระบบแจ้งว่าสายรัดถูกทำลายเมื่อเวลา 03.45 น. ของวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริการประชาชนจึงได้ติดต่อไปยังพรชัยทางโทรศัพท์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และได้ติดต่อไปยังบุคคลอ้างอิงของพรชัยแล้ว ได้รับแจ้งเพียงว่าบุคคลอ้างอิงไม่ได้พักอาศัยอยู่กับพรชัย และไม่ได้ติดต่อกับพรชัยเป็นเวลานานแล้ว ไม่ทราบว่าพรชัยอยู่ที่ใด ซึ่งถือว่าพรชัยมีพฤติการณ์ที่อาจจะหลบหนี หรือฝ่าฝืนเงื่อนไขตามคำสั่งของศาล เจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริการประชาชนจึงได้รายงานพฤติการณ์ดังกล่าวให้ศาลทราบ
เมื่อถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 อันเป็นกำหนดนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พรชัยไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 จึงมีคำสั่งออกหมายจับพรชัย และปรับนายประกันเต็มตามสัญญา มิได้เป็นการปล่อยปละละเลยหรือไม่ดูแลการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แต่อย่างใด